วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เฮ้ย ปาล เล่นfacebookป่าว ถ้าเล่นaddเค้าด้วยนะ เค้าชื่อ Morgan Mox
http://www.facebook.com

วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เกมอสุจิบุก


http://sperm.tai-parinya.com/
ใครทำเนี่ย แหม คิดไปได้ 555+ แถมคำคมเพียบอีกตะหาก
ถ้าอยากผสมไข่ก็ต้องชนะให้ได้นะ

วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

vr2


เพิ่งเล่นอ่ะ

vr2

ตัวมอร์แกนชื่อไรอ่ะเวลไรด้วย

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

britney spears อึ๋ย!!!


เจอในgoogle

7in1

a: วันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: ไปสยามมาคับ
b: แล้วไงวะ
a: เดินผ่านหญิง เค้าหันกลับมามองเลยคับ
b: โห เมิงหล่อมาก !
a: ป่าวคับ เหยียบตีนเค้า

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: ไปเที่ยวกลางคืนมาคับ
b: เออ เปนงัยวะ
a: หิ้ว ญ กลับมาคนนึงคับ
b: โหย เปยงัยวะ
a: นม งี้ดูไม่ได้เลยคับ
b: เห้ยทำนมหรอวะ
a: เค้าไม่ให้ดู คับ

a : แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: เมาเหล้าคับ
b: เหย ธรรมดาๆ
a: แล้วปวดฉี่ คับ
b: แล้วทำไงวะ
a: เลยไปฉี่ตรงศาลพรภูมิ
b: เห้ย แล้วไหว้รึป่าว
a: กลับมาจู๋บวมเลยคับ
b: เมิงไม่ไหว้อะดิ
a: ซิบหนีบจู๋ คับ

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: วาเลนไทน์คับ
b: เปนไงๆ
a: ผู้หญิงที่คณะวิ่งถือดอกไม้มาหาผม ทุกคนเลย
b: โห เมิงป๊อปมากเลยนะเนี่ย
a: ป่าวคับ เค้าเอามาขาย

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: ไปคัดตัวนักวิ่งมาคับ
b: เออ เปนงัยวะ
a: 100 ม. ผมวิ่งได้ 4 วิ คับ
b: โห หยั่งงี้ติดทีมชาติเลยนะเนี่ย
a: วิที่ 5 ล้มคับ

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: พ่อพาผมไปโรงพัก
b: เออ แล้วไงต่อๆ
a: คนไหว้พ้อผมทั้งสน.เลยคับ
b: โห พ่อเมิงใหญ่มากเลย
a: พ่อเป็นพระคับ

a: แล้ววันก่อนคับ
b: ทำไมวะ
a: ไปบ้านเพื่อนมาคับ
b: แล้วไงต่อวะ
a: เหนแม่เพื่อนถือถาดมาให้
b: แม่มาเสิร์ฟน้ำเลยหรอวะ
a: ขายลอตตารี่คับ

ขอบคุณที่ชม

ชายหนุ่มอ่านหนังสือพิมพ์ พบเรื่องของนักแสดงสาวสวยแต่งงานกับนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดังแต่ไอคิวต่ำ
เหลือหลาย เขาจึงหันไปพูดกับภรรยาว่า
"ทำไมผู้ชายโง่ๆถึงได้เมียสวยนะ"
"จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ขอบคุณนะที่ชม" ภรรยากล่าว

ความภูมิใจของชายวัย 80

ชายวัย 80 คนหนึ่งมาหาหมอเพื่อตรวจร่างกายประจำปี
“เป็นไงครับ สบายดีมั้ย” หมอถาม
“ฟิตปั๋งเลยแหละครับ” ชายแก่คุย
“ผมเพิ่งแต่งงานใหม่กับเจ้าสาวเอ๊าะๆ อายุแค่ 18 แถมตอนนี้เธอก็ตั้งท้องลูกของผมแล้วด้วย”
ชายแก่อวดอย่างภูมิใจ

หมออึ้งไปพักใหญ่แล้วพูด “ผมมีเรื่องๆ นึงจะเล่าให้ฟัง ผมรู้จักผู้ชายคนนึง
เขาชอบเข้าป่าล่าสัตว์มาก อยู่มาวันนึง เขารีบไปหน่อย
แทนที่จะหยิบปืนดันคว้าผิดเอาร่มไปแทน พอเข้าไปในป่า
อยู่ๆ มีหมีตัวนึงโผล่ออกมาตรงหน้าเขา
เขาตกใจหยิบร่มขึ้นมาแล้วกดไกทีนี้ลองทายดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น” หมอถาม

“ไม่รู้สิ” ชายแก่เดาไม่ถูก
หมอตอบ “หมีโดนกระสุนล้มลงตาย!”
“เป็นไปได้ไง!!” ชายแก่ไม่เห็นด้วย “คนอื่นยิงล่ะม้าง”
“ผมก็ว่างั้นแหละ ! ! ! “ หมอตอบ

ถอดให้หนูหน่อย

น้องจอยเป็นเด็กเรียบร้อยจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่กับน้าชายเพื่อมาเรียนหนังสือ
ทุกคนคิดว่าทั้งคู่เป็นน้าหลานกันธรรมดาจนกระทั่งวันหนึ่ง

น้องจอยพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า
"น้าชายถอดเสื้อของจอยได้มั้ย"

น้าชายก็ถอดเสื้อของจอยออกอย่างว่าง่าย
"น้าถอดกางเกงจอยด้วย"

น้าชายรีบถอดกางเกงหลานสาวโดยทันที
น้องจอยพูดด้วยอาการอายต่อไปว่า

"ยกทรงหนูด้วย"

น้าชายปลดตะขอยกทรงน้องจอยออก

จากนั้น..น้องจอยก็พูดด้วยอาการหน้าแดงว่า
"กางเกงในหนูก็ถอดด้วยสิ"

น้าชายถอดเสื้อผ้าของน้องจอยออกหมดจากนั้นน้องจอยก็พูดว่า

"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
"
คราวหน้าน้าอย่ามาเอาเสื้อผ้าของจอยไปใส่อีกนะ

ฉันมีแต่คุณไม่มี

สามีภรรยาคู่หนึ่งที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 20 ปี


กำลังนั่งรถไปงานเลี้ยงด้วยกัน

โดยภรรยาเป็นคนขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แล้วจู่ๆ สามีก็เอ่ยน้ำเสียงอย่างเย็นชาว่า

" เราแต่งงานกันมายี่สิบปีแล้ว ที่ผ่านมาคุณดีกับผมก็จริง

แต่ตอนนี้ผมพบคู่ชีวิตคนใหม่แล้ว เธอคือเลขาฯ คนสวยของผมเอง"


ภรรยาขับเร็วขึ้นเป็น 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สามีพูดต่อว่า

"ผมต้องการหย่ากับคุณโดยเร็วที่สุด

ตลอดชีวิตการแต่งงานผมทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

ส่วนคุณทำแต่งานบ้านเท่านั้น

ดังนั้นหุ้นบริษัทกับบ้านหลังใหญ่ควรเป็นกรรมสิทธ์ของผม"


ภรรยาขับเร็วขึ้นเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่งโมง

"ส่วนเงินในธนาคารห้าสิบล้าน ผมจะเจียดให้คุณไปทำทุนสักห้าแสน

นอกจากนี้คุณยังอยากได้อะไรอีกไหม"

"ไม่ต้องหรอกค่ะ สิ่งที่ฉันอยากได้ที่สุดฉันมีแล้ว แต่คุณไม่มี"
ภรรยาตอบเสียงเย็นชาเช่นกัน

พลางกดคันเร่งเร็วขึ้นเป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
"อะไรล่ะที่คุณมีแต่ผมไม่มีน่ะ"

"ถุงลมนิรภัย"

อะไรจะเก่งขนาดนั้น.!!!

ชายหนุ่มคนหนึ่ง บ่นกับเพื่อนว่า"อั๊วรู้สึกเจ็บข้อศอกอย่างรุนแรง สงสัยจะต้องไปหาหมอล่ะ"

"เฮ้ยไม่ต้อง มีร้านขายยาคอมพิวเตอร์ร้านนึง มีเครื่องอัจฉริยะถูกกว่าเร็วกว่าไปหาหมอ

เยอะ ง่ายๆแค่เอาตัวอย่างปัสสาวะใส่ไปในเครื่องคอมพิวเตอร์จะวินิจฉัยและให้คำแนะนำ

ออกมาเสร็จ แค่ร้อยเดียว" เพื่อนรักบอก

ชายหนุ่มคิดในใจว่าลองดูก้อไม่เสียหายอะไรว่าแล้วก็ฉี่ใส่กระป๋องแล้วตรงไปร้านขายยา

ที่ว่าพอเจอเครื่องก็จัดการ เทปัสสาวะเข้าเครื่อง หยอดเหรียญ กดปุ่มซักครู่

เครื่องเริ่มส่งเสียงทำงาน ไฟกระพริบแล้วพิมพ์กระดาษรายงานผลออกมา

" คุณเป็นโรคเอ็นข้อศอกอักเสบ ให้เอาข้อศอกแช่น้ำอุ่นบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก

จะดีขึ้นภายในสองสัปดาห์"

เย็นวันนั้น ขณะที่นั่งคิดทึ่งในความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีปัจจุบันเค้านึกสงสัยว่า

คอมพิวเตอร์ จะตอบมั่วๆไปเรื่อยหรือป่าวคิดได้ดังนั้น เค้าจัดการทดสอบทันที

โดยการเอาน้ำก๊อกที่บ้านผสม กับอุจจาระของหมาที่เลี้ยงไว้และปัสสาวะของภรรยาและลูกสาว

ปิดท้ายด้วยการช่วยตัวเองเอาน้ำอสุจิเติมลงไป จัดการเขย่าให้เข้ากันแล้วตรงกลับไปที่ร้านเก่า

หลังจากหยอดเหรียญเครื่องก็ทำงานและพิมพ์รายงานออกมา

"น้ำก๊อกบ้านนายกระด้างเกินไป ควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำกระด้าง"

"หมานาย มีพยาธิ ควร ให้มันกินยา ฆ่าพยาธิ"

"ลูกสาวนาย ติดยา ควร พาเธอเข้ารับการฟื้นฟูบำบัด"

"เมียนายตั้ง ครรภ์6 สัปดาห์ แต่ไม่ใช่ลูกนาย ควรจะปรึกษาทนายความ"

"และสุดท้าย ถ้านายยังไม่เลิกช่วยตัวเองด้วยมือบ่อยๆ เอ็นข้อศอกของนายไม่มีวันหายแน่"

20000

สามีภรรยากำลังเตรียมตัว จะออกไปข้างนอก

ขณะที่ภรรยาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และสามีกำลังโกนหนวดอยู่

ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น

"ออกไปดูหน่อยได้ไหม ?" สามีบอก

ภรรยาจึงสวมเสื้อคลุมอาบน้ำไปที่ประตูทั้ง ที่ผมยังเปียกอยู่

เมื่อเปิดประตูเธอก็เห็นเพื่อนบ้านข้างๆยืนอยู่

เขามองดูเธอครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

"ผมจะให้คุณ 20,000 บาท

ถ้าคุณเปิดเสื้อคลุมนั่นให้ผมดู"

เธอหยุดคิดครุ่หนึ่งว่า 20,000
มันก็ง่ายดีนะ แถมไม่มีใครรู้ด้วย
เธอจึงเปิดเสื้อคลุมให้เขาดู
หลังจากที่เขาดูอยู่นาน เขาก็ให้เงินเธอ แล้วก็กลับบ้านไป

เธอสวมเสื้อคลุมแล้วปิดประตู
สามีได้ยินเสียงประตูจึงตะโกนถามว่า "ใครเหรอ ?"

บ้านข้างๆน่ะ" เธอตอบ

..............................
.......................
.......................
..................
............
..........




แล้วเค้าเอาเงินที่..ยืมผมไป 20,000 มาคืนด้วยหรือเปล่า..ที่รัก

555+

Yo! มอร์แกน เป็นไงบ้างงงงงงงงงงงงงงงง ไม่ได้อัพบล็อคตั้งนานเลยนะ อัพตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยเมื่ออาทิตย์ก่อนยังไม่มีเลย!!




มาเลี้ยงไวรัซกันหนุกดี

มีอะไรที่หน้าผากรึเปล่า

"สามีนอนดูอเมริกันฟุตบอลอยู่ ภรรยาเข้ามาขอร้อง


"ซ่อมไฟทางเดินให้หน่อยสิ มันเสียมาหลายวันแล้ว"
"ซ่อมไฟเหรอ" สามีโมโห
"ฉันไม่ได้ทำงานเจเนรัลอิเลคทริคนะ ดูที่หน้าผากซิมี จีอี. สลักไว้หรือเปล่า"


"งั้นซ่อมประตูตู้เย็นให้หน่อยนะ" ภรรยาขอต่อ
"ซ่อมตู้เย็น ? " สามีฉุน "ไม่ได้ทำงานเวิล์ดพูลนะ ดูหน้าผากฉันซิมีอักษรสลักไว้หรือเปล่า"


"ค่ะ อย่างน้อยช่วยดูบันไดให้หน่อยได้ไหม รู้สึกมันจะพังแล้วนะ
"ซ่อมบันได" สามีโมโหสุดขีด "ฉันไม่ใช่พนักงานรับซ่อมบ้านนะ
ดูซิมีเครื่องหมายพนักงานอยู่ตรงไหน"


สามีปึงปังออกจากบ้านไป เขาไปดื่มเหล้าดับอารมณ์อยู่สักพักก็รู้สึกตัวว่าเขาพูดจารุนแรงไป เขาตัดสินใจกลับบ้านมาซ่อมของใช้ให้ภรรยา

เมื่อกลับเข้าบ้าน เขาเห็นไฟทางเดินส่องสว่างดี ประตูตู้เย็นก็ซ่อมเป็นปกติ บันไดก็ซ่อมเสร็จ เขาจึงถามภรรยา "ที่รัก นี่เธอซ่อมมันยังไง"

"อ๋อ พอคุณออกจากบ้านไป ฉันก็นั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าบ้าน
มีผู้ชายคนหนึ่งผ่านมาถาม ฉันเลยเล่าให้ฟัง
เขาอาสาว่าจะซ่อมให้ โดยขอนอนกับฉันครั้งหนึ่ง หรือไม่ก็ทำคุกกี้ให้เขา"

"เหรอ แล้วเธอทำคุกกี้อะไรให้เขาล่ะ" สามีถาม

"นี่คุณ" ภรรยาขึ้นเสียง
"ดูหน้าผากฉันซิ มีอักษร S & P หรือเปล่า"

นอกใจ

เมียอั๊ว นอกใจว่ะ ไอ้หนุ่มปรับทุกข์กับเพื่อน
เรื่องเป็นไงมาไงวะ เพื่อนยินดีรับฟัง
เมื่อคืนอีไม่ยอมกลับบ้านน่ะสิ
พออั๊วถาม อีบอกว่าไปค้างกับพี่สาว
ไอ้หนุ่มเล่า
ก็ไม่เห็นแปลกอะไรนี่หว่า แค่นี้จะว่าเค้านอกใจได้ไง
เพื่อนชี้ทางสว่าง
โกหกเห็นๆ ว่ะ อั๊วนอนอยู่กับพี่สาวอีทั้งคืนแท้ๆ นี่หว่า...

เพื่อน ที่ไม่ได้พบกันมานาน

เพื่อน 4 คน ที่ไม่ได้พบกันมานาน 30 ปี ได้พบกันในงานสังสรรค์จึงคุยกันเรื่องลูกในขณะที่เพื่อนคนที่สี่เข้าห้องน้ำ

เพื่อนคนที่1 : ลูกเก่งมาก เรียนจบ MBA ไต่เต้าเป็น CEO รวยจนซื้อรถเบนซ์ให้เพื่อนรัก

เพื่อนคนที่ 2: ลูกชั้นเป็นกัปตันเครื่องบินบริษัทเล็กๆ เก่งจนกลายเป็นผู้ร่วมลงทุน ตอนนี้รวยจนซื้อเครื่องบินส่วนตัวใหม่เอี่ยมให้เพื่อนรักได้

เพื่อนคนที่3: ลูกเป็นวิศวกร ก่อสร้างจนรวยไม่รู้เรื่อง เป็นมหาเศรษฐี ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ให้เป็นของ ขวัญแก่เพื่อนรัก

ทั้งสามคนแสดงความยินดีแก่กันที่มีลูกแสนเก่ง ร่ำรวย ประสบความสำเร็จในชีวิต ทันใดนั้นเพื่อนคนที่สี่ก็เดินกลับจากห้องน้ำพอดี ก็ถามว่า "แสดงความยินดีกันเรื่องอะไรล่ะ" "อ๋อก็เรื่องความสำเร็จของลูกพวกเรา เออ แล้วลูกเป็นยังไงบ้าง"

เพื่อนคนที่สี่ก็ตอบว่า "ลูกชายมันเป็นเกย์ หากินเต้นระบำเปลื้องผ้าในไนต์คลับ" เพื่อนทั้งสามก็พูดพร้อมกันว่า "แหมน่าสงสาร ผิดหวังจังนะ" คำตอบของเขาก็คือ

"ไม่รู้สึกอับอายอะไร ฉันรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะเป็นลูก และจะว่าไปก็เป็นอาชีพที่ไม่เลวนะ วันเกิดเมื่อสองอาทิตย์ก่อน มันได้ของขวัญเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ แถมเครื่องบินเจ๊ต และรถเบนซ์อีกด้วยนะ "จากแฟน 3 คน"

ตั้งชื่อลูก

เด็กหญิงอายุ 16 คนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่หน้าตาดีมาก จึงทำให้มีชายหนุ่มจำนวนมากที่เข้ามาจีบเธอ
เธอรู้สึกกลัวว่า ผู้ชายที่เข้ามาหาเธอนั้นต้องการที่จะมีอะไรกับเธอ
เธอจึงตัดสินใจไปปรึกษาแม่ของเธอ
แม่ของเธอจึงให้คำแนะนำกับเธอว่า
' ไม่ต้องกลัวลูก ต่อไปนะ ถ้ามีผู้ชายคนไหนพยายามจะทำอะไรลูก ให้ถาม เขาไปว่า
' จะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดี ' นั่นจะทำให้ทุกคนกลัว '

หลังจากนั้น เธอก็ได้ไปที่งานปาร์ตี้ มีผู้ชายที่เข้ามาเต้นรำกับเธอ และเขาก็เริ่มจูบและกอดเธอ
เธอจึงกระซิบ ถามเขาไปว่า ' เราจะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดี '
ชายหนุ่มรีบหาข้อแก้ตัว และเขาก็หายไปเลย

หลังจากนั้น ก็มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก มีผู้ชายเข้ามารู้จักกับเธอ แล้วเขาจูบที่คอเธอ และไล่ลงมาที่ไหล่
เธอหยุดเขา และถามเขาถึงเรื่องชื่อลูกอีก เขาก็หนีไปเลย

ต่อมา เธอได้รู้จักกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เขาชวนเธอไปที่บ้าน
จากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มจูบเธอ เธอก็ถามไปทันทีว่า ' เราจะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดี '
แต่เขายังคงค่อย ๆ จูบเธอต่อไป
'จะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไรดี ' เธอถามซ้ำ
แต่ไม่มีท่าทีว่าเขาจะสนใจ และเขาก็ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าเธอ
' จะตั้งชื่อลูกของเราว่าอะไร ' เธอตะโกนถาม
เขาก็เริ่ม...กับเธอทันที

เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงถามคำถามเดิมซ้ำไปอีกที
เขาถอดถุงยางออกเรียบร้อย แล้วจึงตอบว่า
' ถ้ามันรอดจากไอ้นี่มาได้ ก็เรียกมันว่า. David Copperfield! ก็แล้วกัน '

คุณสมบัติครบ

สุภาพสตรีนางหนึ่งชื่อว่า แอ๊ปเปิ้ล อายุอานามก็ปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว
แต่ยังโสดเลยลงประกาศหาชายในฝันทางหน้าหนังสือพิมพ์แต่มีข้อแม้ดังนี้
1. หากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขอให้พูดจากันดี ๆ อย่าลงไม้ลงมือ
2. จะต้องไม่จากหล่อนไปไหน จะอยู่เคียงข้างกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
3. ต้องเต็มร้อยในเรื่องบนเตียง
หลังจากลงประกาศอยู่หลายวันไม่มีใครมาติดต่อ
อีก 2-3 สัปดาห์ต่อมา ขณะที่กำลังทำงานบ้านอยู่ก็มีคนมาเคาะประตู
พอหล่อนออกไปเปิดก็พบผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น แขนขาด้วน หน้าตาน่าสงสาร
แอ๊ปเปิ้ล..."มาหาใครคะ"
ชายพิการ..."ผมมาหาคุณแอ๊ปเปิ้ลครับ"
แอ๊ปเปิ้ล... "ดิฉันนี่แหละค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ"
ชายพิการ.. "คือ..ผมเห็นประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์
ผมก็เลยคิดว่าผมมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่คุณต้องการ"
แอ๊ปเปิ้ล... (งงเล็กน้อย) "คุณมีคุณสมบัติอะไรที่ว่าครบ"
ชายพิการ... "ข้อ 1 ผมไม่ตบตีคุณแน่ เพราะผมไม่มีมือไม่มีแขน และ
ข้อ 2 ผมไม่ทอดทิ้งคุณไปไหนเพราะผมไม่มีขา"....
แอ๊ปเปิ้ล.... "เอ่อ ... เอ่อ.. แล้วข้อ 3 ล่ะคะ" หล่อนถามด้วยความสงสัยเป็นที่สุด
ชายพิการ... "คุณครับ ผมไม่มีมีมือ ไม่มีแขน ไม่มีขา
แล้วเมื่อสักครู่ที่ผมเคาะประตู คุณคิดว่าผมใช้อะไรเคาะละครับ"

ซักผ้า

เรื่องมีอยู่ว่า สามี ภรรยาคู่หนึ่งอาศัยอยู่ร่วมกันมานาน
จนมีลูกชายคนหนึ่งอายุ 7 ขวบ
เรียกได้ว่าอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นพอดี
เพราะฉะนั้นเวลาที่สามีภรรยาคู่นี้จะพูดจะจาอะไร
ก็ต้องระวังเพราะว่ากลัวลูกจะจำไปพูด
จึงมีการทำข้อตกลงกันว่าเวลาจะมีอะไรกันตามประสาผัวเมีย
ต้องพูดรหัสลับว่า "ซักผ้า" ลูกชายจะได้ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน
วันนึงสามีเกิดอยากจะซักผ้าขึ้นมาเลยเรียกลูกชายมาสั่งว่า
"นี่!ลูก ไปบอกแม่เอ็งหน่อยนะว่าเดี๋ยวพ่อจะซักผ้าให้มาช่วยพ่อซักหน่อย"
ลูกชายก็เลยวิ่งไปบอกฝ่ายภรรยาแต่เผอิญว่าตอนนั้น
ภรรยายังไม่มีอารมณ์ก็เลยบอกลูกชายว่า
"กลับไปบอกพ่อนะลูกว่าวันนี้เครื่องซักผ้าเสียยังใช้ไม่ได้
ต้องเอาไปซ่อมก่อนไว้วันหลังค่อยซัก"
ลูกชายก็รับข้อความจากแม่ไปบอกพ่อตนเอง
พอบอกแล้วก็เป็นอันจบกันไป สามีโมโหเล็กน้อยแต่ก็ไม่ว่าอะไร
แต่เมื่อถึงตอนบ่ายฝ่ายภรรยาเกิดมีอารมณ์อยากจะซักผ้าขึ้นมา
เลยเรียกลูกชายมาแล้วให้ไปบอกสามีว่า
"ลูก!ไปบอกพ่อทีนะว่าตอนนี้เครื่องซักผ้าซ่อมเสร็จแล้วใช้ได้แล้วให้มาซักได้เลยเร็วๆด้วย"
ลูกชายก็รับข้อความจากแม่ไปบอกพ่อทันที
แต่ฝ่ายพ่อกลับตอบฝากลูกชายมาว่า
"กลับไปบอกแม่เอ็งนะว่าพ่อหน่ะ ใช้มือซักเสร็จเรียบร้อยแล้วโว้ย!"

เป่าลม


เด็กชายตัวเล็กต้องตื่นขึ้นมากลางดึก 3 คืนซ้อน
เมื่อเขาได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากห้องนอนพ่อแม่ของเขาเอง
ในที่สุด เช้าวันหนึ่ง เขาจึงเข้าไปหาแม่ ถามให้หายสงสัย..
"แม่ครับ ทุกคืนเลย ผมได้ยินแม่กับพ่อทำเสียงประหลาดๆ
และเมื่อผมมองเข้าไปในห้องแม่
ผมเห็นแม่นั่งทับขยับตัวขึ้นๆ ลงๆ อยู่บนตัวพ่อ"
แม่ตกใจเล็กน้อย รีบตอบว่า
"ลูกรักที่แม่นั่งทับบนตัวพ่อ ก็เพราะพ่อเริ่มอ้วนแล้ว
แม่จะทำให้พ่อผอมให้ได้อีกครั้งน่ะจ้ะ"
"ไม่ได้ผลหรอกครับแม่" หนูน้อยท้วง
"ทำไมล่ะจ๊ะ"
"ก็เพราะผู้หญิงข้างๆ บ้านจะมาหลังจากที่แม่ไปแล้ว
เธอเป่าลมเข้าไปในตัวพ่อตรงที่แม่นั่งทับนั่นแหละครับ!"

ทีเด็ดภรรยา

สามีภรรยาเตรียมตัวไปงานแฟนซีสวมหน้ากาก
พอถึงวันงานภรรยารู้สึกปวดหัวจึงเตรียมชุดให้สามี
และบอกให้เขาไปงานคนเดียว
หลังจากนอนไปชั่วโมงหนึ่ง ภรรยาก็รู้สึกดีขึ้น เธออยากรู้พฤติกรรม
สามีเมื่อห่างหูห่างตาจึงลุกขึ้นแต่งแฟนซีไม่ให้สามีจำได้และไปร่วมงาน
เธอมองหาชุดสามีในงาน
ในที่สุดก็พบว่าเขาป้ออยู่กับสาวๆ เธอจึงเข้าไปร่วมวง
และแสร้งให้ท่าให้ทางเขา
สามีหลงมารยาเธอจึงได้เต้นรำและหาเศษหาเลยกับเธอทั้งคืน
ในที่สุดสามีก็กระซิบชวนเธอมาเล่นจ้ำจี้กันในรถ
ก่อนถึงเวลาเปิดหน้ากากเล็กน้อย
ภรรยาก็แวบออกจากงานและกลับมานอนรอสามีอยู่ที่บ้าน
เมื่อสามีกลับถึงบ้าน
ภรรยาก็เลียบเคียงถามเพื่อจับผิด
"เธอไม่ไปด้วยนี่ น่าเบื่อจะตาย" สามีตอบหน้าตาย
"ได้เต้นรำกับใครบ้างล่ะ"
"เปล่าเลย" สามีไม่ยอมรับ "ที่จริงผมไม่ได้เข้าไปในงานหรอก
ผมแวะเล่นไพ่แล้วให้เขายืมชุดแฟนซีไป นี่รู้ไหม
ไอ้คนที่ยืมชุดผมไปบอกว่าเขาเจอทีเด็ด"

อยากดูใช่มั้ย


สามหนุ่มกับหนึ่งสาวนั่งรถไฟไปด้วยกัน

ถึงแม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่เนื่องจากทุกคนมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
การพูดคุยจึงถูกคอ พอเวลายิ่งผ่านไปดึกขึ้น
ดีกรีเรื่องที่คุยก็เริ่มเคลื่อนลงต่ำไปใต้สะดือมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดสาวคนเดียวในกลุ่มก็เอ่ยขึ้น
ถ้าพวกคุณให้เงินชั้นคนละยี่สิบบาท ชั้นจะโชว์ขาให้ดู
ทั้งสามหนุ่มนึกสนุก ควักเงินออกมาให้

แล้วสาวเจ้าก็ถลกกระโปรงยาวกรอมเท้าขึ้นมาเกือบถึงเข่าให้เห็นช่วงน่องเรียวสวย
ถ้าพวกคุณให้ชั้นคนละร้อย ชั้นจะโชว์ต้นขาให้ดูเลยเอ้า เธอพูดต่อ
ทั้งสามหนุ่มควักเงินออกมาคนละร้อยเหมือนถูกมนต์สะกด
แล้วสาวสวยก็ถลกกระโปรงขึ้นไปอีกนิดให้เห็นต้นขาขาวนวลเนียนน่าลูบไล้
ในสภาพที่ทั้งสามหนุ่มกำลังกระสับกระส่ายกับภาพยวนตา
สาวเจ้าก็งัดไม้ตายออกมา
ทีนี้ถ้าพวกคุณให้ชั้นอีกคนละพันชั้นจะโชว์ให้ดูที่ๆ ชั้นผ่าไส้ติ่ง
สามหนุ่มไม่รอช้า ควักเงินออกมาให้โดยดี แล้วเตรียมดูภาพประทับใจ
สาวน้อยชี้ออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูด
โน่นไง เห็นมั้ย ชั้นผ่าที่โรงพยาบาลนั้นแหละ

ไม่ใช้เอง

สามีภรรยาขับรถจากแอตแลนตาไปนิวยอร์ค
หลังจากทนขับรถกันเกือบตลอด 24 ชั่วโมง
ในที่สุดสองสามีภรรยาก็หยุดพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
ทั้งสองนอนพักแค่ 4 ชั่วโมงก็เก็บข้าวของออกเดินทางต่อเพราะต้องรีบไป
ทั้งสองตกใจที่ค่าที่พักราคาสูงถึง 350 เหรียญ
พวกเขาคาดว่าราคาไม่น่าจะเกิน 100 เหรียญเท่านั้น
ทั้งสองขอคุยกับผู้จัดการ
"โรงแรมเรามีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิค ห้องสัมมนาขนาด 400ที่นั่ง
สนามเทนนิสห้องคาราโอเกะ ห้องซาวน่า และบริการอื่นๆ อีกมากมาย"
ผู้จัดการพยายามอธิบาย
"แต่ราคาก็ไม่น่าสูงขนาดนี้นะ" สามีแย้ง
"เรามีโชว์ชั้นหนึ่งจากนิวยอร์ค ฮอลลีวู้ด และลาสเวกัสให้ดูด้วย"
"แต่ผมเข้าพักตอนตีสองนะ ผมไม่ได้ดู" สามีเถียง
"นั่นเป็นเรื่องของคุณครับเราหามาให้คุณดูแล้วคุณไม่ดูเองก็ช่วยไม่ได้
ยังไงเราก็ต้องคิดราคาห้อง 350 เหรียญ"
เถียงไปก็เปล่าประโยชน์ สามีจึงหยิบเช็คเงินสดมาเขียนให้
"350 เหรียญครับ ไม่ใช่ 100 เหรียญ" ผู้จัดการทักท้วง
"ผมคิดค่าตัวภรรยาผม 250 เหรียครับ" สามีบอก
"เฮ้ย ผมไม่ได้ ? กับภรรยาคุณนะ"
"ช่วยไม่ได้ ผมพาเธอมาให้บริการถึงที่แล้วคุณไม่ใช้บริการเองทำไมล่ะ"

ผู้ชายอยากรู้

วันหนึ่ง สมชายเกิดปวดท้องขนาดหนัก จึงรีบวิ่งตรงเข้าห้องน้ำสาธารณะ แต่.. โชคไม่เข้าข้าง เพราะทุกห้องเต็มเหยียด แถมไม่มีทีท่าว่าใครจะออกมา หลังจากที่เขาเดินกระวนกระวายอยู่หลายนาที เผอิญมีหญิงสาวคนหนึ่งสังเกตเห็นเข้า และเดาได้ว่าสมชายกำลังกลัดกลุ้มกับปัญหาทุกข์หนักเช่นใด หญิงสาวจึงตรงเข้ามาหาและพูดด้วยความเห็นใจว่า

“คุณคะ ๆ ห้องน้ำหญิงว่างอยู่ค่ะ” “แต่ว่า…อ่า…” สมชายยังมีอาการลังเล
“เถอะค่ะ.. ฉันเห็นใจ ฉันยินดีจะเฝ้าให้ ถ้าคุณยอมสัญญากับฉัน 3 ข้อ” หญิงสาวยื่นเงื่อนไข

“ครับ ๆ ๆ ๆ…ผมตกลง สัญญาอะไรบ้างครับ” สมชายรับปากด้วยความเต็มใจยิ่ง
เนื่องจากอะไรต่อมิอะไรในลำไส้ใกล้ระเบิดออกมาให้ขายขี้หน้าอยู่รอมร่อ

“ข้อแรก คุณต้องรีบใช้ห้องน้ำให้เร็วที่สุดในระหว่างที่ฉันเฝ้าให้ เพราะฉันอยู่เฝ้าได้ไม่นาน เดี๋ยวอาจจะมีสุภาพสตรีที่ต้องการใช้ห้องน้ำมาที่นี่ แล้วเธออาจจะตกใจได้ถ้าเจอคุณอยู่ในนั้น” หญิงสาวเอ่ยขอคำสัญญาข้อแรก

“อูยยย…เร็ว ๆ ครับ รีบบอกข้อ 2 ข้อ 3 มาด่วนเลย”

“ข้อ 2 คุณต้องรักษาความสะอาด ห้ามทำให้เลอะเทอะสกปรกเด็ดขาด พวกผู้ชายน่ะ ชอบทำห้องน้ำสกปรก”

“ข้อ 3 ต่อเลยครับ เร็ว ๆ ๆ ๆ”
“ข้อสุดท้ายสำคัญที่สุด.. คุณต้องสัญญาว่า ห้ามกดปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้นในห้องน้ำหญิง นอกเหนือจากปุ่มชักโครก” คำสัญญาข้อสุดท้าย.. แม้จะทำสมชายค่อนข้างงง ทำนองไม่เข้าใจว่าจะมีปุ่มอะไรในห้องน้ำหญิงนักหนา แต่เขาก็รับคำเนื่องจากปวดท้องจนทนไม่ไหว ว่าแล้วสมชายก็วิ่งพรวดเข้าไปในห้องน้ำ

หลังปลดทุกข์อันหนักหน่วง เขาจึงมีโอกาสได้พิจารณาห้องเล็ก ๆ โดยรอบ ซึ่งพบว่าไม่มีอะไรต่างจากห้องน้ำชายสักเท่าไร เว้นแต่.. ปุ่มแปลกประหลาดจำนวน 3 ปุ่ม สีเขียว สีฟ้า และ สีแดง อยู่ที่ผนังห้องน้ำ! แถมปรากฏอักษรย่อ “น.อ.” ที่ปุ่มสีเขียว “พ.ล.” ที่ปุ่มสีฟ้า และ “ด.ผ.อ.น.ม.” ที่ปุ่มสีแดง สมชายเริ่มเกิดความอยากรู้อยากเห็น เพราะห้องน้ำชายไม่ยักมีปุ่มพวกนี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะละเมิดคำสัญญาลองกดปุ่มแรกที ่เขียนว่า “น.อ.”
ทันใด..

สิ่งน่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฏมีสายน้ำอุ่นพุ่งขึ้นฉีดล้างทำความสะอาดบั้นท้ายเขาอย่างนุ่มนวล แผ่วเบา และอุ่นสบาย สมชายจึงรู้ว่า ที่แท้ “น.อ.” ย่อมาจากน้ำอุ่น! ขณะนึกอิจฉาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องน้ำหญิง เขาก็อดใจไม่ไหว ต้องลองกดปุ่มที่สองที่เขียนว่า “พ.ล.”

ทันใดนั้น..

ก็มีสายลมพัดพุ่งตรงใส่บั้นท้ายเขา เป่าให้แห้งอย่างนุ่มนวล แผ่วเบา
และอุ่นสบายเช่นเคย ทีนี้ สมชายจึงเข้าใจกระจ่างว่า “พ.ล.”
แปลว่าพัดลม!

เมื่อสมชายเห็นความอัศจรรย์สุดยอดของบริการทันสมัยไปสองปุ่มแล้ว
เขาอดไม่ได้ที่จะลองกดปุ่มสุดท้ายที่กำกับด้วยอักษรย่อยาวที่สุดว่า
“ด.ผ.อ.น.ม.” พลางนึกว่าปุ่มนี้น่าจะเป็นทีเด็ดสุดยอด

เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแล่บ
กว่าสมชายจะรู้ตัวอีกที
ก็ตอนได้สติที่โรงพยาบาล ทันทีที่ลืมตาขึ้น
เขารีบถามพยาบาลที่อยู่ตรงหน้าทันทีว่า… “นี่มันที่ไหนกัน
ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย
เกิดอะไรขึ้น ผมจำได้ว่าผมเข้าไปใช้บริการที่ห้องน้ำหญิง
แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไง”

“ตอนนี้คุณอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ
ที่คุณต้องมาอยู่นี่ก็เพราะคุณไปกดปุ่มสีแดงเข้าน่ะนะคะ”
เมื่อเห็นสมชายทำหน้างง พยาบาลสาวนางนั้นจึงเฉลยว่า
“ปุ่มสีแดงที่มีอักษรย่อว่า ‘ด.ผ.อ.น.ม.’ หมายถึง ‘ดึงผ้าอนามัย’ ไงคะ…

ฉันต้องแสดงความเสียใจด้วย เพราะคุณหมอต่อให้คุณไม่สำเร็จค่ะ
เครื่องมันจัดการดึงแล้วยัดลงชักโครกไปแล้วล่ะนะคะ

ข้อสอบวิชาภาษาไทย


จงต่อเติมสุภาษิตต่อ ไปนี้ให้ถูกต้องต ามหลักทำนองคลองธรรม

ข้อ 1 ลูกผู้ชาย ฆ่าได้….

ก …ฝังให้ ด้วย
ข …ก็ฆ่าไป
ค …หยามไม่ได้

ข้อ 2 หน้าไหว้หลัง…

ก … หลังเป็นขี้กลาก
ข …หลังหลอก
ค …หลังใคร

ข้อ 3 น้ำมาปลากิน มด น้ำลด…

ก …ตอผุด
ข …กระหน่ำซัมเมอร์เซล
ค …ให้รีบตัก
ง …มด กินปลา

ข้อ 4 น้ำท่วมทุ่ง…

ก …ผักบุ้งโหลงเหลง
ข …ผักบุ้งไฟ แดง
ค …ให้รีบตัก
ง … ข้าวสาลี แล้วบู้มม!! กลายเป็นโกโก้คั้น

ข้อ 5 ช้างตายทั้งตัว…

ก …และหัวใจ …. (อ้วกก)
ข …อย่าเสียผัวให้ ใคร
ค …เอาใบบัวมาปิดไม่มิด

ข้อ 6 เห็นช้างขี้…

ก …จับ ตั๊กแตน
ข …ขี้ตามช้าง
ค …ดีกว่าช้างตด
ง …ให้รีบตัก …….(มันยังตัก อยู่ = =”)

ข้อ 7 ใจดี…

ก …หามจั่ว ใจชั่วหามเสา
ข …สู้ เสือ
ค …กินด่าง
ง …จังเล้ยย

ข้อ 8 ไม่เห็นน้ำ ตัด กระบอก…

ก …แล้วเอาไปขายร้านข้าวหลามหนองมน
ข …ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่ง น้ำตา
ค …ไม่เห็นกระรอก โก่งหน้าไม้

ข้อ 9 วัวหาย…

ก …ทั้งตัว เอาใบบัวมาปิดไม่มิด
ข …ไปไหนฟะ
ค …ควายหด
ง …ล้อมคอก

ข้อ 10 รักวัวให้ผูก รักลูก…

ก …ให้ถูกทาง
ข …หามเสา
ค …ให้ตี
ง …กิน ด่าง

แมลงสาบผู้ยิ่งใหญ่

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า.... (แมงสาบชรามองไปบนฟ้า...รำลึกถึงเรื่องราว...)
ครั้งนั้นปู่ของแกยังเป็นแมงสาบวัยรุ่น
แกเที่ยวเดินทางยังที่ต่างๆทั่วโลกจนวันนึงแกไปพบกับแมงสาบรุ่นสาว... สวย...
หัวเป็นสีเหลืองเข้ม...ก็คือย่าของลูกนี่แหละ...ไปเจอกันที่อเมริกา โน่น...
ยุคนั้นเราไปขุดทองที่นั่นกันเยอะ...เป็นโรบินฮู้ดน่ะ...ปู่กับย่า
ครองรักกันอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง...
ประมาณสองเดือนก็มีลูกเล็กๆมากมายหนึ่งในนั้นก็มีพ่อด้วยตัวหนึ่ง...
ปู่แกเป็นแมงสาบที่แข็งแรง ห้าวหาญและมีจิตใจที่เป็นอิสระ...เป็นพ่อที่ดี...
วันหนึ่ง
แกมัวแต่กินเศษช๊อกโกแล๊ตในกระเป๋าเจ้าของบ้านจนเพลินก็เลยติดกระเป๋าไปที่ทำงาน...
ย่าแกพยายามเกาะชายกางเกงเจ้าของบ้านเพื่อตามปู่ไปในวันรุ่งขึ้น...แต่มันก็สายเกินไป...ลุงแดนนี่
(แมงสาบอเมริกัน)บอกว่า...ปู่ของแกโดนเหยียบติดรองเท้าไปแล้วให้ย่าทำใจซะ

คงไม่ได้พบกันอีก...ย่ากลับบ้านมาด้วยดวงใจที่แหลกสลาย...แกระทมราวกับชีวิตจะหาไม่...แต่แล้ว...
วันนึงจึงได้รู้ว่าปู่ยังไม่ตาย...แกติดอยู่ในร่องของพื้นรองเท้าของชายผู้หนึ่ง...
จังหวะที่ถูกเหยียบแกพยายามหดตัวอย่างสุดแรง...ตับไตไส้พุงแกถูกบีบ...
พอแกปล่อยตัวจากการหดแกก็ติดแหง็กในซอกรองเท้า...ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก...
ปู่แกติดอยู่นาน...นานเท่าไหร่แกคงไม่รับรู้...รู้แต่ว่าเจ้าของรองเท้าออกเดินทาง...เดินทางไปไกลแสนไกล...ปู่แก
ถึงแม้จะเจ็บปวดทรมานแต่ก็ยังควบคุมสติไว้ได้...แกรู้ว่าแกกำลังจะได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่...

สิ่งที่โลกจะต้องจารึกชื่อของแกไว้...หากแกยอมกลั้นใจตายก็คงไม่ต้องเจ็บปวดทรมาน
แต่แกไม่...แกทนเจ็บ ทนหิว...แกรู้ว่าย่าจะต้องภูมิใจในตัวแก
เมื่อรู้ในสิ่งที่แกทำวันที่ชายเจ้าของรองเท้าเดินทางไปถึงที่หมาย...
แกสวดมนต์วิงวอนขอให้พระผู้เป็นเจ้าเมตตาแก่ดวงวิญญาณของแก...ขอให้มอบพลังเฮือกสุดท้ายให้แก...
แกจะกลายเป็นตำนาน...
วินาทีที่ชายเจ้าของรองเท้าเปิดประตูออก...แกถูกแรงบีบอัดมหาศาลจากรอบตัว...
แกต่อต้านมันไว้ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งด้วยพลังแห่งความรักที่มีต่อครอบครัว...
ต่อลูกน้อยๆของแกชายเจ้าของรองเท้าก้าวออกมาจากประตู
เท้ายังลอยไม่แตะพื้น...เท้าที่มีปู่ของแกติดอยู่...ลอยเชื่องช้าอยู่กลางอากาศ...
ปู่แกรวบรวมจิตใจ...ยืดเท้าออกเต็มที่...ยืดออกมาจนพ้นจากพื้นรองเท้านั้น...เท้าแกสัมผัสพื้น..
.ก่อนเจ้าของรองเท้าเพียงเสี้ยววินาที...แล้วร่างของแกก็แหลกสลายไปกับอากาศธาตุ...เป็นฝุ่นผงธุลี...
ไปสู่อ้อมกอดของพระผู้เป็นเจ้า...
ชั่วนิรันดร...เช้าของการถ่ายทอดสดทางทีวี วันนั้น...หากใครสังเกตดีๆ...
รอยเท้าของนีลอาร์มสตรอง ที่เหยียบลงบนพื้นของดวงจันทร์จะมี รอยขีดเล็กๆ
อยู่หลายขีด...นั่นล่ะ...รอยเท้าของสิ่งมีชีวิตแรก...ที่เหยียบลงบนดวงจันทร์...รอยเท้าของปู่แก...
แมงสาบผู้มีจิตวิญาณอันเสรี...

มีพระอยู่ 1 รูป เดินผ่านเข้าไปในเขตที่กำลังเกิดสงครามอยู่
จึงถูกทหารนายหนึ่งจับเป็น เชลย
แต่ว่าระหว่างทางที่ทหารจะพาพระกลับไปในเมือง
ก็ได้เดินผ่านร้านเหล้า จึงเกิดอยากเหล้าขึ้นมา
จึงได้แวะดื่มก่อน ทหารก็ได้คิดอย่างรอบคอบ
ก่อนที่จะเมาหลับไปจึงนำกุญแจมือล็อกพระติดกับตนเองไว้
หลังจากนั้นก็ได้เมาหลับไป.....
พระจึงแอบหยิบกุญแจมาไขแล้ว
จัดการสลับเสื้อผ้าของทหารกับพระ
จากนั้น...พระก็จัดการโกนผม ให้ทหารคนนั้น
เวลาผ่านไป จนกระทั่ง ทหารเริ่ม สร่าง (รึป่าวหว่า)
จึงตื่นขึ้นมาแล้วหันมองทางซ้ายทีทางขวาที
ก็ไม่เจอพระ จึง ส่องกระจก และมองชุดที่สวมใส่
จึงอุทานขึ้นว่า "พระยังอยู่ แล้วกูไปไหนว่ะ!!!"

อินเดียนแดง


พอถึงฤดูใบไม้ผลิ พวกอินเดียนแดงในเขตสงวนแห่งหนึ่งถามหัวหน้าเผ่าคนใหม่ว่า ฤดูหนาวปีนี้จะหนาวจัดหรือเปล่า...
หัวหน้าเป็นคนสมัยใหม่ ไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาอ่านลมฟ้าอากาศจากบรรพบุรุษ แต่ด้วยความกลัวเสียฟอร์มหัวหน้าเผ่า จึงทำทีแหงนมองฟ้าแล้วบอกว่าปีนี้จะหนาวทารุณ ขอให้คนในเผ่าเตรียมฟืนไว้ก่อไฟผิงให้มากๆ...
เมื่อตอบแล้ว หัวหน้าเผ่าก็แอบโทร.ไปถามกรมอุตุฯ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศตอบว่า ท่าทางจะหนาวจัด
หัวหน้าเผ่าจึงย้ำให้คนในเผ่าเร่งหาฟืนเพิ่มขึ้น.......
สองสามวันต่อมา หัวหน้าเผ่าโทร.ถามกรมอุตุฯให้แน่ใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตอบว่า ปีนี้ต้องหนาวแน่นอน
หัวหน้าเผ่าจึงสั่งให้คนในเผ่าเก็บเศษไม้ทุกชิ้นที่หาได้...
พอใกล้ฤดูหนาว หัวหน้าเผ่าโทร.ไปถามที่กรมอุตุฯ อีกครั้ง " แน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์นะว่าปีนี้จะหนาวจัด "

"100 เปอร์เซ็นต์" เจ้าหน้าที่ตอบหนักแน่น
หัวหน้าเผ่าถาม "ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น"
กรมอุตุฯตอบ "พวกอินเดียนแดงพากันออกหาฟืนไม่หยุดเลยครับ"

ไม่ท้อง


ดช.ต๊ะเป็นเด็กอนุบาล...

วันหนึ่ง ต๊ะเดินเข้าไปถามครูด้วยความสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์

ต๊ะ: ครูครับ...ครูท้องได้มั๊ยครับ

ครู:ได้สิจ้ะ...ครูเป็นผู้หญิงนี่จ้ะ

ต๊ะ:เหรอครับ...งั้นคุณแม่ผมก้อท้องได้ใช่มั๊ยครับ...

ครู:ใช่จ้ะ...ก็คุณแม่น้องต๊ะก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับครูไงจ้ะ

เด็กชายต๊ะเงียบไปครู่นึงแล้วถามต่อ...

ต๊ะ:ครูครับ...แล้ว ดญ.ฝน ท้องได้มั๊ยครับ..(ต๊ะชี้ไปที่ดญ.ฝน)

ครู: ดญ. ฝนท้องไม่ได้หรอกจ้ะ...

ต๊ะ: ทำไมละครับ..เค้าก้อเป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่ครับ..

ครู: ดญ.ฝน เค้ายังเด็กอยู่..ท้องไม่ได้หรอกจ้ะ...

คราวนี้ต๊ะเดินเข้าไปหาแล้วคุยกับ ดญ.ฝน

ต๊ะ: บอกแล้วไงว่าไม่ท้อง!!!

รูดซิป


มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะขึ้นรถเมล์ในตอนเช้า
ซึ่งคนก็เบียดเสียดยัดเยียดกันมาก ผู้หญิงคนนั้นนุ่งกระโปรงสั้นและคับมาก เธอก้าวขึ้นบันไดลำบาก เธอจึงเอื้อมมือไปปลดซิปกระโปรงด้านหลัง
เธอพยายามรูดซิปประมาณ 4-5 ครั้ง
แล้วผู้ชายข้างหลัง ก็ดันก้นผู้หญิงคนนั้น ให้ขึ้นไปบนรถเมล์
ด้วยความรักนวลสงวนตัว
เธอจึงต่อว่าผู้ชายคนนั้นว่า คุณถือดียังไงมาดันก้นฉัน
ผู้ชายคนนั้นก็ตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า "แล้วคุณล่ะ ถือดียังไงมารูดซิปกางเกงผม"

ผู้กล้า


เศรษฐีคนหนึ่ง มีลูกสาวสวยมาก จึงขุดคลองไว้รอบบ้าน แล้วเอาจรเข้มาเลี้ยงไว้ เพื่อป้องกันใครจะมาจีบลูกสาว แล้ววันนึงต้องการหาคู่ให้ลูกสาว จึงจัดงานขึ้นที่บ้าน เพื่อให้ชายหนุ่มผู้กล้าหาญมาชุมนุนกัน เพื่อหาคู่ให้ลูกสาว โดยเค๊าได้ประกาศว่า "ใครที่สามารถว่ายน้ำข้ามฝั่งมาที่บ้านข้าได้ จะยกลูกสาวให้ " พูดจบก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง กระโดดตูมลงมา แล้วก็ว่ายน้ำ ฝ่าฝูงจรเข้นับร้อยตัว มาจนถึงฝั่งบ้านของเศรษฐีได้ เศรษฐี จึงได้ถามว่า เจ้ามีของดีอะไรหรือถึงสามารถ ทำเช่นนี้ได้ ชายหนุ่มคนนั้นจึงตอบว่า "ก่อนที่ข้าจะตอบ ข้าขอถามก่อนว่า เมื่อกี้นี้ใครถีบตูลงมา"

นิ้ว


ตำรวจเดินตรวจตราบริเวณ RCA ตามนโยบายจัดระเบียบสังคม พบภาพพิศดารภาพหนึ่ง มีชายคนนึงยืนเอา นิ้ วแ ย ง ก้น ช าย อี ก ค น นึ งอ ยู่ ใ นค ว าม มื ด แถ ว ที่ จ อ ดร ถ

"คุณมาทำอนาจารอะไรแถวนี้" ตำรวจถาม

"เปล่าอนาจารนะครับคุณตำรวจ" ชายคนที่เอานิ้ ว แ ย ง ก้น เ พื่ อนแย้ง

"เพื่อนผมเมามาก ผมแค่จะช่วยให้ มันอ้วกจะได้สร่างเมาเร็ว ๆ

"พูดเป็นเล่นน่ะ" ตำรวจไม่เห็นด้วย

"คุณเอานิ้วล้ ว ง ก้ น ยังงี้มันจะหายเมาได้ยังไง"

"ใจเย็นสิคร้าบ" เขายิ้มเผล่

"รอผมเอานิ้วมา ยั ด ปากมันก่อน ดูซิว่ามันจะอ้วกมั้ย"

ไข่ไก่


ทหารหนุ่มผู้หนึ่งต้องออกไปรบแดนไกล ทิ้งภรรยาสาวสวยไว้ที่บ้านนานเป็นเวลา ถึง 2 ปีเต็ม เมื่อได้เวลาที่จะกลับบ้าน เขาจึงรู้สึกดีใจมากที่จะได้เจอกับ ภรรยาสาวผู้เป็นที่รักยิ่ง แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็ต้องแปลกใจมากเมื่อ ที่หัวเตียงนอนของภรรยามีไข่ไก่วางอยู่ 3 ฟองและเงินสดอีก 2 แสนบาท ด้วย ความสงสัย เขาจึงถามภรรยาว่า

สามี: ที่รัก..คุณเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียงทำไมครับ ?

ภรรยา: ฉันขอสารภาพตามตรงค่ะ..คือช่วงที่คุณไม่อยู่ฉันเหงาเหลือเกิน ฉันนอกใจคุณค่ะ ทุกครั้งที่ฉันนอกใจคุณ ฉันจะเอาไข่มาวางไว้ที่หัวเตียง เพื่อเตือนความจำว่าฉันทำผิดต่อคุณไปกี่ครั้ง

สามีได้ฟังก็รู้สึกเห็นใจภรรยามาก เขาจากหล่อนไปตั้ง 2 ปีเต็ม เธอนอกใจ เขาแค่ 3 ครั้ง เธอคงเหงาจริงๆ ถึงได้ทำลงไป เขาไม่ติดใจเอาความอะไร แต่ก็อด ถามถึงเงิน 2 แสนบาทไม่ได้

สามี: แล้วเงินสดตั้ง 2 แสนบาทนี่ล่ะ คุณเอามาจากไหนที่รัก

ภรรยา: อ๋อ..เงินนั่น....ฉันก็เอาไข่ไปขายได้มาไงล่ะคะคุณ...

สามี: &%$#???

ทางไป…สวรรค์...

นายดำเป็นชายโสด อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งห่างไกลความเจริญเป็นอย่างมาก
เมื่อคืนนายดำได้ฝันถึงปู่ของเขาที่เพิ่งเสียไปในฝันเห็นปู่แค่เพียงรางๆ แต่ได้ยินเสียงชัดเจนมาก
ปู่ของเขามาบอกเขาว่าหนาวมากอยากได้ผ้าห่มสักผืนจะได้หายหนาว แล้วก็หายวับไป
วันรุ่งขึ้นนายดำได้คิดถึงความฝันรู้สึกสงสารปู่ของเขาอย่างมากเขาได้เตรียมผ้าห่มไว้ 1 ผืน
แต่เกิดปัญหาเสียก่อนปัญหาคือเขาลืมถามปู่ไปว่า จะส่งผ้าห่มให้ปู่ได้อย่างไรปู่ถึงจะได้รับ
และได้หายหนาวเสียที
คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเขาก็นึกได้ว่าปู่ของเขาเป็นคนดีตอนนี้น่าจะอยู่บนสวรรค์
คิดได้ดังนั้นเขาก็เข้าไปแต่งตัวและหยิบผ้าห่มออกจากบ้านเพื่อที่จะหาทางไปสวรรค์ตลอดทั้งวัน
เขาเจอใครที่เดินผ่านมา หรือเดินผ่านบ้านใครเขาก็จะถามถึงทางไปสวรรค์
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครให้คำตอบได้นายดำเดินมาตามทางอย่างคนสิ้นหวังนึกสงสารปู่จับใจที่ไม่
สามารถช่วยอะไรได้
แล้วเขาก็ได้หยุดเดินทางมานั่ง อยู่หน้ากระท่อมหลังหนึ่งแล้วถอนหายใจอย่างคนปลงตก
แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงคุยกันดังออกมาจากในกระท่อมหลังนั้น
‘พี่ทนไม่ไหวแล้ว พี่จะพาน้องไปสวรรค์แล้วน่ะ’
‘เอาเลยจ๊ะพี่ น้องพร้อมแล้ว เราไปกันเลย’
นายดำได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งไปถีบประตูกระท่อมทันทีและเอ่ยขึ้นเสียงดังว่า
‘เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ฉันฝากผ้าห่มไปให้ปู่ฉันด้วย’ สองผัวเมียอ้าปากค้าง
ในขณะที่นายดำได้บอกชื่อและนามสกุลปู่เสร็จสรรพและเอ่ยขอบคุณก่อนออกมาจากกระท่อม
และพูดกับตัวเอง เบาๆว่า
‘มิน่าล่ะปู่กูถึงหนาวก็คนไปสวรรค์เขาแก้ผ้ากันไปทั้งนั้น’

ช้อนนี่มีไว้ทำไมเนี่ย

ผมเคยไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมสังเกตเห็นว่าบริกรที่มารับออร์เดอร์มีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อ พอผมมองไปทั่วๆ จึงเห็นว่าบริกรในร้านมีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อกันทุกคน ด้วยความสงสัยผมจึงถามเขาดู

“ขอถามหน่อยเถอะ ช้อนนี่มีไว้ทำไมเนี่ย เห็นมีกันทุกคนเลย”

” ช้อนนี่หรือครับ” พนักงานตอบ “เจ้าของร้านเขาจ้างบริษัทที่ปรึกษา มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานน่ะครับ เขาเก็บข้อมูลอยู่หลายเดือนแล้วก็บอกว่า ลูกค้าจะทำช้อนตกมากว่าอย่างอื่นถึง 73.84% ซึ่งตกประมาณ 3 ครั้งต่อโต๊ะต่อชั่วโมง ซึ่งถ้าพนักงานเราเตรียมการไว้ก่อน ก็จะสามารถลดจำนวนครั้งที่จะต้องเดินกลับไปที่ครัว และก็สามารถลดพนักงานที่ใช้ลงได้ 1 คนต่อกะ”

พอเขาพูดเสร็จผมก็ได้ยินเสียงช้อนหล่นอยู่หลังผม บริกรที่คุยอยู่กับผมก็หยิบช้อนในกระเป๋าเสื้อส่งให้ใหม่แล้วบอกว่า “ผมจะหยิบอันใหม่เมื่อผมกลับไปที่ครัวแทนที่จะรีบเข้าไปหยิบในครัวเดี๋ยวนี้”

ผมรู้สึกประทับใจมาก และเมื่อผมมองดูรอบๆ อีกครั้ง ผมก็สังเกตเห็นด้ายเส้นเล็กๆ ห้อยออกมาจากช่องซิปกางเกงของบริกรทุกคน ด้วยความสงสัยผมจึงถามบริกรคนเดิมอีกครั้ง

“รบกวนอีกทีเถอะ ทำไมถึงต้องมีด้ายห้อยออกมาจากตรงนั้นด้วย” โอ้โฮเฮะเขาดูตื่นเต้นมาก

“ผมไม่เคยเจอใครช่างสังเกตอย่างคุณเลยนะครับ จริงๆ แล้วไอ้นี่ก็เป็นผลงานของบริษัทที่ปรึกษาเจ้าเดิมนั่นแหละ เขาบอกว่ามันทำให้เราสามารถประหยัดเวลาที่ใช้ตอนเข้าห้องน้ำได้”

“ประหยัดได้ไง” ผมสงสัย? “ก็…” เขาอธิบาย “เราผูกด้ายนี่เข้ากับปลายไอ้นั่นคุณคงเข้าใจนะครับ แล้วพอจะฉี่เราก็แค่ดึงด้ายนี่ออกมา มือก็ไม่เลอะ มันก็ประหยัดเวลาที่ต้องล้างมือไปได้ เขาว่ามันทำให้ประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในห้องน้ำลงไปตั้ง 76.39% แน่ะ”

“อืม…ร้ายจริงๆ” ผมรู้สึกทึ่ง “ว่าแต่ว่าไอ้ด้ายนั่นช่วยตอนเอาออกมา แล้วตอนเก็บเข้าไปล่ะจะทำไง?”

“เอ่อ…” เขากระซิบ “ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำกันยังไง แต่ผมน่ะ…ใช้ช้อน”

ต้องปิดโรงเรียน

คุณครูสาวนุ่งกระโปรงสั้นเต่อลายสก๊อตเข้าไปสอนนักเรียนชั้นมัธยม ระหว่างที่เธอกำลังยืดตัวจับชอล์คเขียนบนกระดานดำเธอก็ได้ยินเสียงนักเรียนหัวเราะ เธอหันมาถาม “ขำอะไรรึ อำนาจ”
“กระโปรงครูเปิดครับ” อำนาจตอบ
“ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้ฉันพักการเรียนเธอ 3 วัน” ครูสาวสั่ง
ครูสาวหันไปเขียนกระดานดำต่อ มีเสียงหัวเราะอีก เธอจึงหันมาถาม “ขำอะไรเหรอเฉลิม”
“ผมเห็นขาอ่อนครูด้วยครับ” เฉลิมตอบ
“ออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้ฉันพักการเรียนเธอ 3 สัปดาห์” ครูสาวสั่ง พร้อมหันไปเขียนกระดานดำต่อ
คราวนี้เธอทำแปลงลบกระดานตกจึงก้มตัวลงเก็บ มีเสียงเฮดังลั่นจากนักเรียนทั้งชั้น เธอจึงหันมาถาม
“นี่พวกเธอเห็นอะไรกันอีกล่ะ”
“ที่พวกผมเห็นนี่ สงสัยต้องปิดโรงเรียนเลยครับ”

ไม่ใช่โสเภณี

ดึกดื่นค่ำคืนประมาณตีสองกว่าๆ ที่ rca
คาสโนวาหนุ่มเกิดต้องตาสาวเกาะอกโต๊ะข้างๆ จึงเอ่ยปากชวน
คาสโนวา : น้องครับ ไปหาอะไรสนุกๆทำที่ห้องพี่มั๊ยครับ ?
แล้วน้องจะรู้ว่าสวรรค์มีจริง
เกาะอก : จะบ้าหรือไง !!!! ชั้นไม่ใช่โสเภณีนะ!!!!!
คาสโนวา : โธ่..แล้วใครบอกล่ะว่าเสร็จแล้วผมจะให้ตังค์คุณ

ใครคือเพื่อนแท้

เจ้าของปศุสัตว์ผู้สันทัดกรณีกับชีวิตป่า กำลังแนะนำถึงวิธีกรีดแผลงูกัด
แล้วใช้ปากดูดเอาพิษถ่มทิ้ง
“ถ้าแผลนั้นอยู่บริเวณที่ปากไม่อาจจะก้มไปดูดได้ละครับ”
นักท่องเที่ยวช่างสงสัยถามไถ่
ปศุสัตว์ตอบ “ก็ให้เพื่อนช่วยดูดซิครับ”
“ทีนี้สมมุติว่างูมันดันไปกัดเอาตรงที่เราใช้สืบพันธุ์ละ”
“ก็ทีนี่แหละ เราจะได้รู้ว่าใครเป็นเพื่อนเราจริง”

ม้าส่ายหน้า

มีพระราชาอยู่องค์หนึ่งมีม้าแสนรู้กับธิดาแสนสวยท้าประลองทั่วแคว้นว่า
ใครทำให้ม้าส่ายหน้าได้จะยกลูกสาวให้
ซึ่งพระราชาเตี๊ยมกับม้าไว้แล้วว่าใครทำอะไรก็ให้พยักหน้าอย่างเดียวห้ามทำอย่างอื่น
ก็มีคนมาท้าประลองมากมายแต่ก็ไม่สามารถทำให้ม้าส่ายหน้าได้
จนมาถึงหน่มพเนจรอยู่คนหนึ่ง เขาสามารถทำให้ม้าส่ายหน้าได้ พระราชาประหลาดใจมาก จึงไปถามชายพเนจรผู้นั้นว่า
“ทำอย่างไรม้าของข้าจึงส่ายหน้าให้ท่าน”
หนุ่มพเนจรตอบว่า “ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าเพียงแต่เอาตะเกียบไปดีดไข่มันแล้วถามว่าเอาอีกไหม”

ทำไม ผู้หญิงเกลียดฟุตบอล


ทำไม ผู้หญิงเกลียดฟุตบอล - ดูคลิปทั้งหมด คลิกที่นี่

แม่ชีสารภาพบาป

มีแม่ชีคนหนึ่ง กำลังสารภาพผิดกับบาทหลวง
ชี 1 : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกมีความผิดมาสารภาพ ลูกได้เห็นของลับของผู้ชาย
บาทหลวง : งั้นลูกรีบไปบ่อน้ำวิเศษเลย ไปล้างหน้าล้างตาซะ
ชี 1 ก็รีบไปล้างหน้า ชี 2 วิ่งเข้ามา
ชี 2 : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกมีความผิดมาสารภาพ ลูกได้จับของลับของผู้ชาย
บาทหลวง : งั้นลูกรีบไปบ่อน้ำวิเศษ รีบไปล้างมือซะ
ชี 3 วิ่งตามมาอีก
ชี 3 : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกมีความผิดมาสารภาพเจ้าคะ คือลูก … เอ่อ
ลูกได้มี ….
ชี 4 ก้อรีบวิ่งมาแล้วพูดกับบาทหลวงว่า
ชี 4 : หลวงพ่อเจ้าขา อย่าพึ่งให้หล่อนไปเจ้าค่ะ ขอให้ลูกได้ไปบ้วนปากก่อนที่หล่อนจะไปล้าง …

หมอฟันคนเก่ง

หนุ่มสาวคู่หนึ่งปิ๊งกันที่บาร์
หลังจากทำความสนิทสนมกันพักหนึ่ง ทั้งคู่ก็ตกลงไปดื่มต่อที่คอนโดของสาวน้อย
หลังจากการดื่มอีกนิดหน่อย ฝ่ายชายก็ถอดเสื้อของตัวเองออก แล้วไปล้างมือ
หลังจากนั้นเขาถอดถุงเท้า แล้วก็ไปล้างมืออีกรอบ
สาวมองหน้าเขาแล้วพูดว่า “คุณต้องเป็นหมอฟันแน่ๆเลย”
เขามองหน้าหล่อนงงๆ “ใช่…แต่เอ๊ะคุณรู้ได้ยังไง”
สาวอมยิ้มแล้วตอบ “ง่ายมาก คุณล้างมือตลอดเวลา”
หลังจากนั้นสิ่งๆ ต่างก็เกิดขึ้นเป็นลำดับ เธอจูงเขาไปที่เตียง แล้วก็ …….
เวลาผ่านไปนานพอสมควร ฝ่ายหญิงก็พูดขึ้นอีกว่า “คุณจะต้องเป็นหมอฟันที่เก่งมากๆทีเดียว”
หมอฟันยิ่งสงสัยหนัก “ใช่! ใช่! ผมเป็นหมอฟันที่เก่งมาก แต่คุณทำให้ผมแปลกใจมาก คุณรู้ได้ยังไง”
สาวเจ้าตอบกลับมา “ง่ายมาก คุณทำได้เบามาก ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย“

wtf

ความหวัง

ไอ้หนุ่มจอมสำส่อนเที่ยวผู้หญิงจนติดโรคซิฟิลิสมา ถึงแม้จะไม่ถึงตายอย่างเอดส์แต่อาการก็หนักขนาดที่ว่าหมอส่ายหน้า
?ไม่ไหวแล้วล่ะคุณ? หมอบอกข่าวร้าย ?ยังงี้ต้องตัดทิ้งสถานเดียว ไม่งั้นเนื้อเน่าลุกลามอาจถึงตายได้เชียวนะ?
ไอ้หนุ่มตะลึง ทำใจไม่ค่อยจะได้ แต่ในที่สุดก็ขอหมอกลับไปตัดสินใจก่อนคืนหนึ่ง
ขณะที่กำลังกลับบ้าน เขาผ่านร้านของซินแสจีนคนหนึ่ง ?รักษาด้วยวิชาการแพทย์ล้ำลึกสองพันปี? ป้ายหน้าร้านให้ความหวังจนเขาปล่อยให้เท้านำตัวเขาเข้าไปในร้าน
?เป็งอารายมา ลองล่าวอากางห้ายอั๊วฟังซิ? ซินแสถาม
เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังรวมทั้งคำพูดของหมอแผนปัจจุบันด้วย
?เฮอะ หมอหัวหรั่ง เอะอะอารายก็จาตัดทิ้ง? ซินแสพูดหยันหมอแผนปัจจุบันหลังจากที่ได้เห็นสภาพของไอ้น้องชายของไอ้หนุ่ม
?ซินแส กำลังจะบอกผมว่าไม่ต้องตัดทิ้งแล้วใช่ไหมครับ? ความหวังของไอ้หนุ่มลุกโชน
?ม่ายต้องตัด? ซินแสฟันธง ?ลื้อเอายานี่ไปโปะนะ? พลางคว้ากระปุกครีมสีน้ำนมขึ้นมากระปุกหนึ่ง ?รับรอง คืงเลียวแห้ง ร่วงเองเลย ม่ายต้องตัด!!!?

อย่าโกหกเด็ก

ชายคนหนึ่งกำลังเปลือยกายอาบแดดอยู่ที่ชายหาด ทันใดนั้นเขา
ก็เห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกำลังเดินมา เขาจึงเอาหนังสือพิมพ์ที่
กำลังอ่านอยู่มาปิด … (คิดเอาเอง) ไว้ เด็กผู้หญิงเดินเข้ามาแล้วถาม
ว่า ?มีอะไรอยู่ใต้หนังสือพิมพ์?
เขาคิดอย่ารวดเร็วแล้วตอบว่า ?นก?
เด็กผู้หญิงจึงเดินจากไป ชายหนุ่มค่อย ๆ งีบหลับไป เมื่อเขาตื่นขึ้นพบ
ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาลและรู้สึกเจ็บปวดมาก ตำรวจถาม
เขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตอบว่า ?ผมไม่รู้ ผมกำลังนอนอาบแดดอยู่
แล้วมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาถามคำถาม จากนั้นผมก็งีบหลับไป
แล้วสิ่งต่อมาที่ผมรู้ก็คือ ผมมาอยู่ที่นี่?
ตำรวจจึงไปที่ชายหาด ตามหาเด็กหญิง แล้วถามว่า
?หนูทำอะไรชายคนนั้น?
เด็กหญิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า
?หนูไม่ได้ทำอะไรเขา หนูเพียงแต่เล่นกับนกของเขา แล้วมันก็ถุย
น้ำลายใส่หนู หนูจึงหักคอมัน ทุบไข่มัน แล้วก็เผารังมัน เท่านั้นเอง? ?????
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ?อย่าโกหกเด็ก …. เชียวนะ !?

ขาประจำ

เมื่อเพื่อนรัก นำของขวัญวันเกิดเป็นนกแก้วช่างพูดมาให้ ในตอนสายของวันหนึ่ง ซึ่งกรงนกนั้นมีผ้า คลุมอย่างมิดชิด แล้วจึงบอกกับ ลุงเทิ้ม ว่า อย่าเพิ่งเปิด ผ้าคลุมออกภายใน 3 วันนี้ เพราะนกตัวนี้ ถูกเลี้ยงและโต ขึ้นมาในซ่องแห่งหนึ่ง มันจึงชอบพูดแต่คำ หยาบคาย ให้ทิ้งไว้สักพักหนึ่งให้มันลืมๆ ไปก่อน ลุงเทิ้มจึงเอากรงนก ไปแขวนไว้ในบ้าน แล้วรีบ ปิดบ้านออกไปทำงาน

ตอนเย็น ป้าเกื้อ กลับมาถึงบ้านก่อนใคร มองเห็นกรงนก มีผ้าคลุม แขวนอยู่ จึงเปิดดูด้วยความสงสัย

“ว้าวๆ.. แม่เล้าคนใหม่” เจ้านกทะลึ่งร้องออกมาอย่างดีใจ

ป้าเกื้อ โกรธมาก รีบปิดผ้าคลุม แล้วเดินเข้าครัวไป ต่อมา ลูกสาวของ ลุงเทิ้ม กลับมาจากโรงเรียนมองเห็นกรงนก จึงเดิน เข้าไปเปิดผ้าดู

“ว้าวๆ.. เด็กใหม่” เจ้านกทะลึ่งร้องออกมาอย่างดีใจ

ลูกสาว โกรธมาก จึงเดินหนีไป ในขณะเดียวกัน ลูกชาย ก็กลับมาบ้าน พอ มองเห็นกรงนกก็เดินเข้าไปเปิดผ้าดู

“ว้าวๆ.. แมงดาตัวใหม่” เจ้านกทะลึ่งร้องออกมาอย่างดีใจ

ลูกชาย โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เดินหนีเข้าไปข้างใน พอตกดึก ลุงเทิ้ม เมาแอ๋.. กลับมา ถึงบ้านจำไม่ได้ว่ากรงอะไร จึงเดินโซเซ เข้าไปเปิดผ้าดู

เจ้านกทะลึ่งปรือตามองอย่างงัวเงีย แล้วส่ายหน้า ก่อนจะพึมพำ “โธ่เอ๊ย… ขาประจำ”

อาการปวดหัว รักษาได้

‘โจ’ มีโรคประจำตัวคือ…ปวดหัวเป็นประจำ แต่ว่าไม่เคยไป
หาหมอเลย เนื่องจากเขาคิดว่า เป็นเพียงแค่การปวดหัวจากการเรียนหนังสืออย่างหนักเท่านั้น
ปล่อยไว้ เดี๋ยวก็หาย

10 ปีผ่านไป.. อาการปวดหัวก็ไม่เคยหายไป แม้ว่าบัดนี้เขาได้ก้าวเข้าสู่
วัยกลางคนแล้วก็ตาม เขาก็ไม่คิดจะไปหาหมอ เนื่องจาก ‘โจ’ คิดว่าเป็นเพียงเพราะ
เครียดจากการทำงาน

อีก 10 ปีต่อมา.. อาการปวดหัวก็ไม่เคยหาย มีแต่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
เขาจึงตัดสินใจว่าจะต้องไปหาหมอเสียที และหลังจากที่หมอทำการตรวจเรียบร้อย
หมอจึงได้พูดขึ้นว่า…

‘ ผมมีข่าวดี และ ข่าวร้ายครับ ‘
ข่าวดีก็คือ ผมสามารถรักษาอาการของคุณ ได้อย่างหายขาด

‘ และข่าวร้ายหล่ะครับหมอ’ โจ…ถามขึ้นอย่างร้อนรน

‘ ข่าวร้ายก็คือว่า ผมต้องทำการตัดไข่คุณทิ้งครับ ‘ หมอตอบ

โจ…เหมือนตกอยู่ในภวังค์

‘ คืองี้ครับ…’ หมอรีบอธิบายก่อน

‘ อาการของคุณ ถือว่าเป็นเคสที่หาได้ยากมากๆ เรียกว่า 1 ใน 100 ล้าน ก็ว่าได้
ไข่ทั้ง 2 ข้างของคุณนั้น ไปดันลำไส้ให้ไปกดทับเส้นปลายประสาทล่างสุดของ
กระดูกสันหลัง การกดทับนี้เองทำให้คุณต้องทรมารกับการปวดหัวอย่างรุนแรง
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา…’

‘ ทางเดียวที่หมอจะรักษาได้ ก็คือ ‘การตัดไข่ครับ’ หมอสรุปสั้นๆ

แต่นั่น…ได้ทำร้ายจิตใจของโจยิ่งนัก หมอได้ให้โอกาศเขาตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม
เขารู้สึกหดหู่ยิ่งนัก เขาสู้อุตส่าห์มานะเรียน เพื่อให้ได้ทำงานดีๆ ไม่เคยไปเที่ยวเหลวไหล
เธค – ผับ …ไม่รู้จัก สาวๆ ไม่เคยสน และเมื่อได้งานแล้ว เขาก็ได้ทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อให้้
้ก้าวหน้า และมีเงินเยอะๆ

จนมาวันนี้… เขาได้ทุกอย่างที่ต้องการ และเขาคิดว่าถ้าได้สิ่งเหล่านี้แล้ว ผู้หญิง
มากมายก็จะเข้ามาหาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทุกสิ่งที่วาดฝัน…ก็พังทลายจากอาการปวดหัว
ของโจเอง เขาได้นอนคิดอยู่หลายคืน ถึงแม้จะเศร้าเพียงใด แต่เขาก็ไม่อยากทรมารเหมือนดั่ง
ตกนรกอีกต่อไป เขาไม่กล้าปรึกษาใคร เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย ดังนั้น..วันรุ่งขึ้นเขาจึง
ไปโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดทันที

หลังจากออกจาก ร.พ ด้วยอาการสมองปลอดโปร่งครั้งแรกในรอบ 20 ปี แต่เขาก็
รู้สึกเหมือน…ขาดบางอย่างที่สำคัญไปในชีวิต เหมือนกลายเป็นอีกคนหนึ่ง แต่เขาก็
เข้มแข็งพอ และตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาจึงเดินเข้าร้านตัดสูทที่แพงที่สุดในนิวยอร์ค
เพื่อเป็นการปลอบใจ และเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ โจ…ได้กล่าวกับชายแก่เจ้าของร้าน หลังจาก
ที่เดินเข้ามาต้อนรับ…

‘ เอ่อ ผมจะตัดสูทครับ !!’ โจกล่าว..

‘ ได้ครับ อืมม ขนาด 44 ‘ เจ้าของร้านดูโดยไม่ต้องวัด

โจหัวเราะ ‘ ถูกแล้ว.. รู้ได้งัยเนี่ย ? ‘

‘ เปิดร้านมา 60 ปี น่ะครับ’ โจลองสูท ซึ่งใส่ได้ สวย และขนาดพอดี

‘ ไม่สนใจ…จะลองเสื้อเชิ๊ทมั้งเหรอครับ’ เจ้าของร้านถาม

‘ ก็ดีครับ’ โจตอบ

‘ อืมม แขน 34 คอ 16 นิ้วครึ่ง’ เจ้าของร้านดูโดยไม่ต้องวัด

โจ เริ่มชักสงสัย ‘ ถูกแล้ว… รู้ได้งัยเนี่ย ‘

‘ เปิดร้านมา 60 ปี น่ะครับ’ เจ้าของร้านตอบ

โจลองเสื้อ ซึ่งใส่ได้สวยและขนาดพอดี

‘ รองเท้า…สักคู่ดีไหมครับ ?’ เจ้าของร้านถาม

‘ ก็ดีครับ’ โจตอบ

‘ อืมม 9 นิ้วครึ่ง’ เจ้าของร้านดูโดยไม่ต้องวัด

เช่นนั้น โจรู้สึกแปลกใจมาก ‘ ถูกแล้ว.. รู้ได้งัยเนี่ย ? ‘
‘ เปิดร้านมา60 ปี น่ะครับ’ เจ้าของร้านตอบทันควัน

โจใส่รองเท้า ซึ่งใส่ได้สวย และขนาดพอดี ขณะที่เขาลองเดินไปทั่วร้าน
เจ้าของร้านจึงถามว่า…..

‘ ลองกางเกงในตัวใหม่…สักหน่อยมั้ยครับ’ เจ้าของร้านถามต่อ

โจ ชะงัก และหยุดคิดสักครู่ ‘ก็ดีครับ‘

‘ อืมม ขนาด 36 พอดี’ คราวนี้โจหัวเราะก้าก ‘ฮ่า เสร็จผมหล่ะ คราวนี้

‘ คุณผิดครับ !! ผมใส่เบอร์ 34 ตั้งแต่อายุ 18 แล้ว..’

ชายแก่ส่ายหน้า พร้อมกับพูดขึ้นว่า…

‘ โอ้ย !! อย่างคุณ 34 ไม่ได้หรอก.. ทรมานตายห่*…’
‘ เพราะมันจะไปรั้งไข่คุณ ไปกดลำไส้ และทำให้ไปกดทับเส้นประสาทล่างสุดของ
กระดูกสันหลังอีกที คุณไม่เคยปวดหัวมั่งเลยเหรอ ..?’

นักโทษชั้นดี ไอเดียบรรเจิด

เด็ก 2 คนติดคุกด้วยข้อหาเสพยาบ้าในโรงเรียน ในวันพิจารณาโทษศาลวินิจฉัยว่าเด็กทั้งสองนั้นยังเด็กอยู่มาก และเพิ่งกระทำผิดป็นครั้งแรก แถมยังหน้าตาดี
“ศาลขอสั่งให้เธอทั้ง สองไปทำความดีในวันหยุดนี้เป็นการไถ่โทษ เนื่องจากศาลเห็นว่าเธอทั้ง 2 น่าจะมีอนาคตที่ดี ศาลขอสั่งให้เธอไปชักชวนคนที่ติดยาบ้าจงเลิกเสพเลิกขายไปตลอดชีวิต ได้ความว่าอย่างไร ให้กลับมารายงานตัวในวันจันทร์นี้ด้วย”
…..ในวันจันทร์
“ตกลงว่าเธอทั้งสองได้ไปทำอะไรบ้างตามคำสั่งศาล เอ้า จำเลยคนแรกมารายงานต่อศาล”
“เอ่อ..กระผมได้ไปเกลี้ยกล่อมคนติดยาบ้า 15 คนไห้เลิกเสพตลอดชีวิตเลยครับใต้เท้า”
“โอ้..amazing มาก แล้วเธอทำอย่างไรล่ะ เล่าให้ศาลฟังซิ”
” กระผมใช้แผนภาพครับผม” แล้วก็วาดวงกลมสองวง ใหญ่วง และวงเล็กๆอีก 1 วง (ชี้ไปที่วงกลมใหญ่ก่อน) “กระผมบอกว่า นี่เป็นขนาดสมองของพวกคุณก่อนเสพยาบ้า และนี่เป็นขนาดสมองของคุณหลังจากที่เสพยาบ้าแล้ว”
(ศาลตบมือด้วยความชื่นชม) “ดีมาก เอ้าแล้วจำเลยคนที่สองล่ะ เธอไปทำอะไรมาบ้างล่ะ”
“เอ่อ กระผมได้ไปชักชวนคนที่เสพยาบ้า 150 คนให้เลิกเสพไปตลอดชีวิตเลยครับผม”
(เสียงฮือฮาในศาล)….”โอ้ว…ศาลแปลกใจมาก เธอไปทำวิธีไหนล่ะ ถึงเกลี้ยกล่อมคนได้ตั้ง 150 คน”
” เอ่อ กระผมใช้วิธีคล้ายกันนี่แหละครับ” (ชี้ไปที่วงกลมเล็กๆ) “ผมพูดว่า นี่คือขนาดของรูตูดของคุณก่อนที่จะโดนจับเข้าคุก และนี่ขนาดของรูตูดเมื่อเข้าคุกไปแค่วันเดียว”

จะท้องไหมนี่

เรื่องมีอยู่ว่ามีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งกำลังขับรถจะออกไปต่าง จว. รถดันเสียระหว่างทาง
และในบริเวณที่รถเสียก็ดันเป็นทะเลทรายซึ่งดูแล้วก็มีบ้านคนอยู่แค่หลังเดียวแถวนั้น
ผู้หญิงจึงเดินไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อขอร้องให้เจ้าของบ้านช่วย
เจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ชายมีอายุ อาศัยอยู่กับลูกชายสามคนก็ได้ช่วยซ่อมรถให้
และก็ได้บอกกับผู้หญิงว่าต้องนอนค้างที่บ้านของเขา
เพราะรถนั้นจะเสร็จก็พรุ่งนี้
เจ้าของบ้านให้ผู้หญิงนอนห้องตรงข้ามกับห้องลูกชาย
และบอกกับผู้หญิงว่า ” ห้ามเข้าไปทำอะไรลูกชายเพราะลูกชายทั้งสามคนของเขานั ้นเอ๋อ..(ไม่เต็มบาท) ”
ตกดึกผู้หญิงเกิดอาการขึ้นมา จึงเดินไปเข้าห้องลูกชายคนแรก
และก่อนที่จะมีอะไรกัน ผู้หญิงก็บอกกับผู้ชายว่า
\”ต้องใส่ถุงยางนะ ถ้าไม่ใส่ฉันจะท้อง\”
คนแรกจึงทำตาม
ต่อมาก็เข้าห้องคนที่สองและสามและก็บอกเหมือนกันทั้ง สามคน
หลังจาก 20 ปี ผ่านไปชายสามคนเริ่มมีอายุมากขึ้นทุกคนก็นั่งกันอยู่ หน้าบ้าน
คนแรกนึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยขึ้นว่า
“เฮ้..จำผู้หญิงที่เคยมาพักที่บ้านเราเมื่อ 20 ปี ที่แล้วได้ไหม?”
คนที่สองตอบ
“อ้อ..จำได้”
และคนแรก จึงถามอีกว่า
“นายคิดว่าป่านนี้เขาจะท้องไหม?”
คนที่สามจึงตอบว่า
“คงไม่ท้องแล้วมั้ง”
คนแรกตอบ
“ถ้างั้นเราก็น่าจะถอดถุงยางออกได้แล้วมั้ง…”

เป็นเพื่อนกันคิดตังค์กันได้ไง

มีสามีภรรยาคู่นึงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ภรรยาท้องโตไม่สามารถให้ความสุขกะสามีได้
…ก็สงสารสามี
จึงยื่นเงินให้สามี 500 บาท พร้อมบอกว่า
‘แกเอาเงินนี่ไปโรงน้ำชาในอำเภอซะ’
สามีก็รับเงินแล้วเดินออกบ้านมาระหว่างทางผ่านบ้าน
นังศรีเมียนายศักดิ์เพื่อนภรรยา
นังศรี ถามว่า
‘เอ็งจะไปไหนล่ะใกล้เย็นแล้ว’
สามีจึงบอกไปว่า
‘ก็เมียข้าน่ะสิให้เงินมา 500 ให้ไปเที่ยวโรงน้ำชาในอำเภอ
เพราะเมียข้าท้องแก่แล้ว’
นังศรีทำหน้าครุ่นคิด…
‘อืม…500เหรอ…เอางี้
ข้าคิดแค่ 200 มาหาความสุขกะข้าแทน’
ฝ่ายสามีเห็นว่าใกล้บ้านไม่ต้องไปไกลแถมเสียตังแค่ 200
ภรรยาคงดีใจ จึงเดินไปในบ้านนังศรี
เพื่อหาความสุข
ครั้นกลับบ้านมา…ภรรยาเห็นก็ตกใจว่าทำไมกลับไว
ฝ่ายสามีจึงบอกไปว่า
‘ไม่ได้ไปอำเภอหรอก… ข้าน่ะไปบ้านนังศรีมานังศรีมันเอาแค่ 200 เอง’
ภรรยาได้ยินดันนั้นก็โมโหหน้าแดงทันที!
‘ชิชะ นังศรี กุจะไปตบมัน….’
สามีก็ตกใจว่า
ภรรยาหึงหวงที่ได้กับเพื่อนหรืออย่างไร
ภรรยาก็พูดขึ้นมาว่า
‘นังศรีนะนังศรี เก็บมาได้ไง 200
ทีตอนมันท้องข้ายังให้ผัวมันเอาฟรีๆเลย
…เป็นเพื่อนกันคิดตังค์ได้ไง'………………………..

สาวเปรี้ยวกะสาวเรียบร้อย

บนเครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง สาวเปรี้ยวแต่งตัวเหมือนคุณหญิงใส่เพชรใส่ทองมากมาย
สาวเรียบร้อยแต่งตัวเรียบๆ แล้วผู้หญิง 2 คนก็เริ่มคุยกัน
สาวเปรี้ยว : สวัสดีค่ะมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันเหรอคะ
สาวเรียบร้อย : ค่ะมาคนเดียว
สาวเปรี้ยว : เนี่ย เดี๊ยน ไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวหรอกคะ กะว่าจะมาดูรถ Porche ไปให้ลูกใช้ซัก 2 คัน
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ
สาวเปรี้ยว : ตอนสมัยอยู่ฝรั่งเศส ก็ขับจากัวร์ กับเฟอร์รารี่เจ้าคุณพ่อซื้อให้ค่ะ เงินสดนะคะ
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ
สาวเปรี้ยว : มานี่จะซื้อของขวัญให้ตัวเองซะหน่อยกะว่าจะซื้อเพชรกลับเมืองไทยซัก 50 กะรัต
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ
สาวเปรี้ยว : แล้วคุณน้องหล่ะคะ ชีวิตเป็นไงบ้างค่ะ
สาวเรียบร้อย : ก็ ไม่มีอะไรคะ ชีวิตเรียบง่าย สมัยเรียน พ่อให้ไปเรียนในวังได้แต่เย็บปักถักร้อย ร้อยพวงมาลัย ทำขนม ครูห้ามพูดคำหยาบ ครูบอกว่าถ้าจะด่าใคร อีตอแหล ให้พูดว่า อ๋อเหรอคะ

ผู้จัดการอยาก...กับเลขาสาว

ผู้จัดการอยากมีเพศสัมพันธ์กับเลขาสาว
เลยบอกตรงๆว่า
“พี่ขอมีอะไรด้วย พี่จะวางเงินไว้ให้หนึ่งพัน
เธอก้มลงเก็บตังค์ พอยืนขึ้นเมื่อไหร่ พี่ก็จะหยุด ok มั๊ย”
เลขาตอบ “เอ่อๆๆ หนูขอถามแฟนก่อน น๊ะค๊ะ”
แล้วเลขาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้แฟนฟัง “แค่ก้มเก็บตั้งค์แล้วยืนขึ้นก็พอเหรอ … สักสองพันดีมั๊ย … ใช้เวลาแค่ก้มลงเก็บเอง
อีก 2 นาทีโทรกลับมาน๊ะ ก้มเก็บตังค์แป๊บเดียวเอง”
10 นาทีผ่านไป ฝ่ายชายก็โทรกลับมา “ทำไมไม่โทรกลับ นานแล้วเนี่ยะ”
“โอ๊วๆ อู๊ว ยางงงงง ไม่เสร็จค่ะพี่ โอ๊วๆๆๆๆ”
“รัยว๊ะก้มลงเก็บตังค์ แค่นี้เอง”
“โอ๊ววว โย๊ๆๆๆ อ๊าๆๆๆ …. หนูไม่รู้ว่ามันเป็นเหรีญบาทค่ะพี่ อ๊ากๆๆๆ โอ๊วววว”
“สาดดดดดดดด”

สอนใจชายทุกคนก่อนแต่งงาน

เศรษฐีคนหนึ่ง มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว
ครั้นถึงวัยสมควรแต่งงาน แกเป็นห่วงกลัวว่าจะได้เมียไม่ดีมาผลาญสมบัติของตระกูล
จึงประกาศหาคู่ให้ลูกชายผ่านทางคอลัมน์ มาลัยไทยรัฐ
ปรากฎว่ามีหญิงสาวจากทั่วทุกสารทิศสนใจมาสมัคร มากมาย
แต่ละคนแจ่ม แจ่ม ทั้งนั้น ทำเอาลูกชายตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใคร
ท่านเศรษฐีนำเอาสร้อยแหวน เพชรนิลจินดาราคาแพง และ หัวมัน หนึ่งหัว
มากองไว้ต่อหน้าบรรดาสาว สาว ทั้งหลาย แล้วสั่งให้เลือกหยิบคนละหนึ่งชิ้น
ปรากฏว่าทุกคนล้วนคว้าเอาแต่ข้าวของมีค่า มีเพียงสาวน้อยคนหนึ่งที่หยิบเอาหัวมัน
เศรษฐีเห็นดังนั้นก็พูดกับลูกชายว่า”ลูกเอ๋ย จงเลือกหญิงคนนั้นมาเป็นเมียของเจ้า”
ลูกชายรู้สึกแปลกใจ ถามพ่อเพราะเหตุใด , เศรษฐีจึงสอนลูกชาย ว่า
” ผู้หญิงที่เลือกเอาแก้วแหวน แสดงว่าหลงใหลในทรัพย์สิน ไม่รู้จักทำมาหากิน”
” ส่วนผู้หญิงที่เลือกเอาหัวมันนั้น คือคนที่ขยัน ทำงานไม่เกี่ยง”
ลูกชายได้ฟัง ก็ไม่เถียง พ่อว่าไงก็ว่าตามนั้น
ผมฟังนิทานเรื่องนี้แล้ว รู้สึกซาบซึ้งในคำสอนของท่านเศรษฐี
ทุกวันนี้ผมจึงจำใส่ใจไว้ตลอดว่า ถ้าจะมีเมีย ต้องเลือกผู้หญิงที่
>>>เอามัน ไว้ก่อน . . .

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

SDO เค้าเล่นเอง

This rabbit takes no shit

ถึง ปาล

หมู่นี้หายไปเลยนะ ยังเล่นอยู่ป่าว ถ้ายังอยู่ตอบด้วย

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

blogใหม่

mox987654321.blogspot.com/MOX321.tk
blogนี้ไม่อัพชุ่ย(อัพแต่ผลงานตัวเอง)

อะไรไม่รู้ แต่จ๊าบเวอร์

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แรกๆอ่ะดีแต่อ่านดูสุดท้ายฮาโค-ตร

เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ให้อนาถ
หลายชีวิตพินาศพร้อมอาสัญ
เมื่อรถยนต์บรรทุกคราลาชีวัน
ชีวิตนั้นมอดมวยด้วยแรงชน
ที่แขนขาขาดสบั้นนั้นหลายร้อย
อีกไม่น้อยเสียชีวาโกลาหล
ข่าวอะไรฟังแล้วดูชอบกล
เออรถยนต์วิ่งชนรังมดแดง

บ้านเล็ก

ลูก  “ป่าป๊า ทำไมบ้านคนอื่นเขาใหญ่   แต่ทำไมบ้านเราถึงเล็ก”
พ่อ  “เพราะป่าป๊าไม่ค่อยมีตังค์”
ลูก  “แล้วทำยังไง  เราถึงจะมีบ้านใหญ่ๆ ล่ะครับ”
พ่อ  “หนูก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ   พอโตขึ้นก็ทำงานได้เงินเยอะๆ ซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ”
ลูก  “แล้วทำไมตอนเด็กๆ     ป่าป๊าถึงไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ”

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อีกสักอัน

qrcode

คนขี้อิจฉา

ชั้นไม่ให้แกได้ดีกว่าเค้าหรอเค้าก็มี Domain เหมือนกัน ชิ!!
PALCOM.TK

555+ อ่านได้มะ

qrcode

เว็ปเค้าเข้าได้ง่ายๆด้วยนี่ (qr code)

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เกย์


เพ่ เพ่ เอา หิ หนุ มะ‏

ชายคนหนึ่งเดินทางจากกรุงเทพฯออกไปท่องเที่ยวแถวยอดดอยกับแฟนของเขา.....

พอไปถึงยอดดอย...ก็จะจอดรถชมวิวแถวจุดชมวิว แต่.........

พอเปิดประตูรถก้าวออกมา ก็ได้ยินเสียงที่ว่า

"เพ่ เพ่ เอา หิ หนุ มะ ?? " เด็กหญิงชาวเขาเอ่ยถาม

ชายหนุ่ม งง ? .................เลยถามกลับไปอีกว่า " อะไรนะ? "

"...เพ่ เพ่ เอา หิ หนุ มะ?" เด็กหญิงชาวเขาถามอีกครั้ง

ชายหนุ่มบอกว่า "ไม่เอา!!! พี่มากับแฟนพี่!!! พี่จะมาชมวิว ".

."......มะ เอา เหรอ ห้า สิ บะ เอง นะ" เด็กหญิงชาวเขาถาม

" ไม่เอา!!!ไม่เอา!!! พี่จะไปดูวิว "

แล้วก็เดินจากไป พอดูวิวเสร็จก็เดินกลับมา ไม่เห็นรถของตัวเอง และก็เห็นเด็กหญิงนั่งหัวเราะอยู่ตรงข้างที่จอดเดิม

ชายหนุ่มจึงถามเด็กดอยไปว่า....".รถพี่หายไปไหน? "

" เหอ เหอ เหอ ...ลด..ขอ..เพ่..โตก..เขา..ไป..ปู้น..แล้ว..เหอ..เหอ..เหอ หนูบอก เอา หิ หนุ มะ... เอา หิ หนุ มะ... ม่ะ เอา เอง โส นะ น่า.......
( รถพี่ตกเขาไปแล้ว หนูบอกเอาหินหนุนไหม เอาหินหนุนไหมไม่เอาเอง สมน้ำหน้า )

เงิน10บาท

ผมนั่งมองเหรียญ 10 บาทในมือ หมุนมันไปมาทบทวนเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นกับมัน
เจ้าเหรียญน้อยเกือบไปอยู่ในมือ ผู้หญิงร่างเล็ก ขาพิการ
ที่ต้องใช้ไม้ค้ำ เดินแบมือขอเงินคนแถวนี้ พร้อมกับภาษาพูดไม่ชัด
ซึ่งจับใจความได้ว่า " ขอเงินหน่อย "
ผมเกือบหย่อนเหรียญลงไปในมือแล้ว
ถ้าไม่เจอ แกนั่งดูดบุหรี่ก้นกรอก ควันฉุย
พ่นควันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ อย่างสบายใจ ตอนคนไม่มี
โดยหารู้ไม่ว่า มีใครคนนึงกำลังจะเอาเงินมาให้
พอหมดบุหรี่ แกก็ลุกขึ้น เดินไปขอตังคนแถวนี้ต่อ
เจ้าเหรียญ 10 ยังคงอยู่

มันก็เกือบไปอยู่ในขันพลาสติกใบหนึ่ง
ที่ขอทานชาย ผู้ซึ่งนอนราบกับพื้น เอามืออีกข้างเกาะพื้นแล้ว
กระเสือกกระสน เพื่อให้ไปข้างหน้าได้
เป็นที่น่าสงสารแก่คนที่ผ่านไปมา
ผมยืนลังเล อยู่พักใหญ่ เดินตามไปห่าง ตั้งใจแน่วแน่ว่า
จะเอาใส่ขันใบนั้น
แต่.......

พอลับตาคน ชายร่างพิการขาขาดข้างนึง ข้างที่มีก็ มีแผลสดๆ
แมลงวันตอม เสื้อผ้ามอมแม ขาดรุ่งริ่ง
กลับ รื้อกองถุงพลาสติกใบใหญ่ รื้อเอาเสื้อผ้าที่ซ่อนไว้ เอาขาเทียม
เอากระเป๋าผ้า มาใส่เศษเงิน แล้วบ่นว่า
" แม่ง ได้น้อยชิบหาย "
หลังจากเปลี่ยนเสร็จ ก็ลุกขึ้น เดินไปถนน โบกแท๊กซี่จากไป
ปล่อยให้ คนใจบุญอย่างผม ยืนอึ้ง
คนใจบุญหลายคนยังขึ้นรถเมล์กลับเลย

เจ้าเหรียญ 10 บาท ยังคงหมุนอยู่ในมือผมอีกครั้ง
มันเกือบไปอยู่ในกล่องไม้สีดำใบนึง
ที่มีผู้หญิงผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ในชุดเจ้าหน้าที่มูลนิธิแห่งหนึ่ง
เขียนด้วยตัวอักษรภาษจีน ดูคล้ายแมลงสาป
เดินเข้ามาหาผมแล้วถามว่า
" ทำบุญโลงศพ เสริมดวง เพิ่มวันไหมครับ "
ผมยิ้มแล้วตอบไปว่า
" ไม่ละ ทุกวันนี้ผมก็อยากตายอยู่แล้ว "

ชายผู้นั้น ทำสีหน้าไม่พอใจ บ่นแลวจากไป
ผมมองเหรียญ 10 อีกครั้ง หมุนมันต่อไป

บางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวตรงหน้า ทำให้ผมตัดสินใจบางอย่างลงไป
ผมเดินไปซื้อน้ำขวดใส
ยื่นเหรียญ 10 ให้แม่ค้าน่าใส ที่ยื่นน้ำพร้อมคำหวานๆว่า ขอบคุณค่ะ
ผมยิ้มตอบ รับน้ำพร้อมหยิบหลอด 2 หลอด
เดินไปที่เด็ก 2 คน
ผมยื่นน้ำให้แล้วบอกว่า " เอาน้องน้ำ กินซะ แล้วขวดพี่ให้ "
เจ้าหนูมองหน้าผมอย่างสงสัย แต่ก็รับน้ำ
พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ แล้วเดินจากไป

ผมยืนมองเจ้าหนูทั้ง 2 คน ที่กำลังแบกถุงปุ๋ยที่บรรจุขวดพลาสติกเปล่าด้วยใจเบิกบาน
อย่างน้อยๆเจ้าหนู 2 คนนี้ ไม่ร้องขอเงินทองจากใคร
แต่ เลือกที่จะเอาสิ่งที่คนอื่นไม่ต้องการ ไปเป็นเงินให้ตนเอง
และ อย่างน้อยๆ เค้า 2 คนช่วยคนอีกหลายคนในการคัดแยกขยะ

ผมยิ้มอีกครั้ง อย่างน้อยๆ 10 บาทที่ผมเสียไปมันคุ้มค่าจริงๆ

ผู้ชายในฝัน 555+

ชายคนหนึ่งเดินออกจากผับ
มีขอทานคนหนึ่ง หน้าตามอมแมม
ตามตัวสกปรกนั่งอยู่ข้างทาง....
'พี่ๆ ขอตังค์สัก 20 สิครับ
ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย' ขอทานเอ่ยปาก

ชายหนุ่มหยุดกึก...แล้วบอกว่า
'เอางี้แล้วกันน้อง ไปกินเหล้าต่อกะพี่ พี่เลี้ยงเอง'
ขอทานบอก 'ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่กินเหล้า'

ชายหนุ่มบอก 'งั้นไปเล่นม้ากะพี่มั้ย พี่ออกทุนให้'
ขอทานก็ยังคงปฏิเสธ 'ผมไม่เล่นการพนันครับ'
ชายคนนี้เลยถามต่อ 'งั้นเอางี้ พี่พาน้องไปลงอ่างดีกว่า'
ขอทานก็ตอบอีกว่า 'ผมไม่เที่ยวผู้หญิงด้วยครับ'

ชายหนุ่มเลยยิ้มนิดๆ เหมือนถูกใจ แล้วถามว่า
'เมื่อกี้น้องขอตังค์พี่เท่าไหร่นะ'
ขอทานบอก '20 ครับพี่'
ชายหนุ่มเลยก้มหน้าไปกระซิบว่า....
'เอางี้ละกัน พี่ให้น้อง 200 เลย
ไปที่บ้านกะพี่หน่อยเด๊ะ'
ขอทานทำหน้างง 'ไปทำไมหรือครับพี่'

ชายหนุ่มควักตังค์พร้อมกับพูดว่า....
'ไปให้เมียพี่มันดูหน่อยหว่ะ ว่าไอ้คนที่ไม่กินเหล้า
ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวผู้หญิงน่ะ....สภาพมันเป็นยังไง

blogนี้มีdomainใหม่แล้ว

mox123.tk <===linkนี้ก็เข้าblogนี้ได้เหมือนกัน สั้นลงตั้งเยอะ

ตอบได้ป่าว

^^เอากะมันดิ…..พ่อแม่สอนไงเนี่ยยย 55555

จงเลือกคำตอบข้อที่ถูกที่สุด

ก. ซื้อส้ม 5 ผล ผลละ 3 บาท จ่ายเงิน 21 บาท
ข. ซื้อส้ม 5 ผล ผลละ 3 บาท จ่ายเงิน 15 บาท
ค. ซื้อส้ม 5 ผล ผลละ 3 บาท จ่ายเงิน 12 บาท
ง. ถูกทุกข้อ

ดช.ป๋อง นามสกุล เลือดแม่แรง เลือกตอบข้อ ค.
ครู:อะไรกัน โจทย์ง่ายๆอย่างนี้เธอยังตอบผิดอีก อย่างนี้ครูคงให้เธอขึ้น ป.4 ไม่ได้แล้วล่ะ

แล้วคุณหล่ะ เลือกข้อไหน
อยากรู้มั้ยเป็นไงต่อ
เลื่อนดูด้านล่างดิ.........






















ด.ช.ป๋อง:ก็ถูกแล้วนี่ฮะ โจทย์ให้ตอบข้อที่ถูกที่สุด ซื้อ 5 ผล จ่ายแค่ 12 ถูกที่สุดแล้ว ข้ออื่นแพงกว่าทั้งนั้นเลย

BEEPO-ONET

ท่านรู้จัก ป้าย Safety ดีพอหรือยัง ฮามาก

กดzoomเอาเองนะ

วันพุธที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เกม sdo


สนุกนะ เกมนี้ ลองเล่นดูมั้ย(โหลดที่www.sdo.in.th) (คลิปนี้เค้าเล่นเอง)

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

วิธีทำระเบิด ฮาๆ(แต่ถึงตาย ปล.ดูเอาฮาแต่อย่าทำ)


วิธีทํา
1.นําขวดพลาสติกมา1ใบ(ขวดนํ้า)
2.นํากระดาษตามหนังสือมาฉีกใส่ไว้ในขวด
3.เอานํ้าเเข็งที่ติดอยู่ข้างตู้เย็นหรือตามรถไอติมวอล์มาใส่ในขวด (น้ำแข็งแห้ง)
4.ปิดฝาขวดให้เเน่น(ยํ่าเเน่นๆ)
5.เขย่าขวดขึ้นลงซัก20เที่ยว
6.หลังจากนั้นถ้าไม่รีบปาขวดตัวใครตัวมัน

ความเเรง
1.นิ้วขาด
2.ถ้าเเรงมากๆกระดูกมือเเตก

******************************************************************

ตอนที่ 2 : วิธีการทำระเบิดปิงปอง

วิธีทํา
1.เจาะรูลูกปิงปอง
2.หาดินปืนมา(หาได้จากพลุหรือธูปหอม)
3.ใส่ดินปืนเเค่ครึ่งพอเเล้วหาดินเหนียวมาปิดรู
4.ต่อสายฉนวนลงไปตรงดินเหนียวใส่ไปลึกๆ
5.จุดไฟเเล้ว......

ความเเรง
1.มือขาด
อาจจะใช้กรวดหินใส่ไปกับดินปืนแทนการใช้ชนวนก็ได้นะครับ

******************************************************************

ตอนที่ 3 : วิธีทำระเบิดระเบิดพริก

วิธีทํา
1.หาถุงยางพลาสติกมา
2.หาพริกชนิดไหนก็ได้ตามใจชอบ
3.ขูดดินปืนใส่ไปนิดนึ่ง
4.มัดถุงเเล้วใส่ชนวนไปเเล้ว จุดได้เลย

ความเเรง
อาจไม่เเรงมากครับมีเสียงเบาด้วยเหมาะเเก่การเเกล้งเเต่ห้ามใส่ตากันน่ะครับ ถึงตาบอดเลยเเต่ถ้าโดนตัวจะเเสบๆคันๆ

******************************************************************

ตอนที่ 4 : วิธีการทำระเบิดขวด


วิธีทํา
1.นําขวดเปล่ามา1ใบ
2.ใส่นํ้ามันก๊าซครึ่งขวด
3.ใส่ดินปืนผสม
4.เอาผ้าอุดรูขวดเอาผ้าให้โดนนํ้าด้วยน่ะ
5.จุดไฟเสร็จเอาไปโยน

ความเเรง
1.ถึงตายครับ  

******************************************************************

ตอนที่ 5 : วิธีทำระเบิดขวดโดยใช้นำมันเบนซิล

วิธีทำ
1.ขวดแก้วขนาดตามหาได้หนึ่งขวด ปกติแล้วจะใช้ขวดเหล้าครับ
2.ใส่น้ำมันเบนซิลครึ่งขวด
3.ผสมวาสลินที่นิยมใช้ทาปากนั่นล่ะครับลงไปในขวด
4. ใช้ผ้าที่ชุบน้ำมันจนชุ่มแล้วตากให้แห้งอุดไว้ที่ปากขวด ไม่จำเป้นต้องให้ผ้าลงไปถึงน้ำมันก็ได้ครับ เพราะเมื่อโยนไปกระทบพื้นแล้วแก้วตกแตก ไฟจะลามไปทำปฏิกริยากับน้ำมันเบนซิลเอง
5.โยนตามสะดวก

อานุภาพ
1.ถึงตายครับ

******************************************************************

ตอนที่ 6 : วิธีทำระเบิดตระไร

วิธีทํา
1.หาไม้ดามเเข็งๆมาหนึ่งกานเจาะรูตรงกลาง
2.ดินปืน เศษเเก้วยัดใส่รูเอาผ้าอุด
3.ราดนํามันใส่ทั้งดาม
4.จุดไฟ....

ความเเรง
1.แผล ถลอก
2.นิ้วขาด

******************************************************************

ตอนที่ 7 : วิธีทำระเบิด ไดนาไม
วิธีทํา
1.นําระเบิดไดนาไมมา3ลูก(ที่เล่นก ันกับพลุอ่ะ)
2.หาดามไม้ไผ่เป็น บอกๆ ยัดใส่ให้หมด3ลูก
3.นําชนวนมาพูกรวมเป็นอันเดียวกัน
4.จุด....

ความเเรง
1.มือขาด
2.ตาย

******************************************************************

ตอนที่ 8 : วิธีทำระเบิดคลอลีน

***** อุปกรณ์ *****
1 ขวดพลาสติก
2 คอลีน (ที่เค้าไว้ใส่ลงในสระน้ำอะ)
3 แอลกอฮอล (ล้างแผลก็ได้ แรงดี)
4 สติปัญญา เอาแบบ ฉลาดๆ นะ

***** วิธีทำ *****
1 เอาคลอลีน ใส่ขวดไป ( ขวด 1.25 ลิตร )
ไปก้นๆ ขวด
2 เทแอลกอฮอลลงไป (จะเกิดปฏิกิรียาทางเคมีทันที)
3 ปิดฝาให้แน่น
4 มีเวลา 5 - 6 วินาที ปาไปให้ไกลที่สุด
5 บึม

***** ความอันตราย *****
1 มือฉีก
2 เข้าตา ตาบอด
3 เข้าปาก อาจจะไม่อยากกินข้าวไปเลยหลายวัน

******************************************************************

ตอนที่ 9 : วิธีการทำดินประสิว

1. หาผงกำมะถันมา 3 ห่อ(มีสีเหลืองๆ)
2. หาดินประสิวมา(คล้ายสารส้ม ยังไงยังงั้นเลย)
3. ถ่านที่ได้จากการเผาต้นพริก(ถ้าไม่มีหาถ่านอะไรก็ได้)
ส่วนประกอบทั้งหมดส่วนมากหาได้ตามร้านขายยาทั่วไป

วิธีทำ

นำดินประสิว และ ถ่าน ตำให้ละเอียด แล้วผสมกำมะถันลงไป
ตากไว้จนแห้งสนิทนำมาใช้งานได้
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ(เสี่ยงหน่อย)
นำผงที่ได้จากการผสมกัน ไปคั่วในกระทะ ระหว่างนั้นให้พรมน้ำลงไปด้วย อย่าให้ร้อนจนเกินไปเพราะอาจทำให้หน้าแหกได้
ดินประสิวที่ดีจะติดไฟอย่างรวดเร็ว ยิ่งเร็ว ยิ่งดี ยิ่งแรง

******************************************************************

ตอนที่ 10 : วิธีทำระเบิดดินเหนียว

1.หาดินเหนียวมา
2.เอากระดาษเเข็งมาพับเป็นเเบบกล่องๆอ่ะครับสัก5-6นิ้วพอ
3.เอาดินปืนใส่กล่องกระดาษ
4.เอาดินเหนียวโปะให้รอบ
5.เอาสายชนวน เปาะ
เเล้วจุด
๛ความเเรง๛
เสียงดังอย่างเดียว อย่างมากก็เป็นเเผล

************************************************************************

ตอนที่ 11 : วิธีทำระเบิดหลอดไฟ

อุปกรมี -หลอดไฟแบบไส้-ดินปืน-กระดาษทรายละเอียด
วิธีทำ
1-ค่อยๆนำกระดาษทรายฝนหลอดไฟให้เป็นรูเล็กๆ กรอกดินปืนเข้าไป 1/4 ของความจุหลอด ปิดรูที่หลอดไป
2-นำหลอดไปใส่ไว้ที่ขั้วตามเดิม ปิดสวิตก่อนนะเดี๋ยวซวย
3-รอคนมาเปิดแล้วรอพบความหนุกหนาน

เพิ่มเติม***
1. หากใส่เศษแก้ว และเศษตะปูลงไปด้วย เวลามีคนเปิดสวิทโดยไม่รู่ตัวนั้น ความแรงของระเบิดจะกินรัศมีกว้างเหมือนทุ่นระเบิดสังหารแบบ m-16 ดังนั้นโปรดระวังด้วยครับ

------------------------------------------------------------------------------
ระเบิดลูกเทนนิส ระเบิดเพลิงงี่เง่า

อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1. ลูกเทนนิสถูกๆ
2. มีดถูกๆ
3. คลอรีนผสมน้ำในสระ เอาแบบเข้มๆหน่อยก็ดี
4. น้ำมันก๊าด ผมใช้แบบที่ใส่เครื่องตัดหญ้า
5. กรวยกรอกน้ำ

วิธีทำ
1. เอามีดมา แทงลูกเทนนิสให้เป็นรู 1 รู กว้างแค่พอจะยัดกรวยเข้าไปได้
2. อัดคลอรีนเข้าไปในลูกเทนนิสให้เต็มเลย
3. เทน้ำมันก๊าดใส่เข้าไปให้ชุ่มคลอรีนแล้วโยนไปไกลๆ

อานุภาพ
10 วินาทีหลังจากคลอรีนเปียกหมดแล้ว บอลจะพ่นควันฟู่ๆๆ แล้วลุกเป็นไฟ ฟู่มมมม! ความรุนแรงแค่พอไหม้มือได้ แต่ห้ามคว้างใส่คนนะ ระเบิดปัญญาอ่อนนี่ใช้ระเบิดรถ/ ถังน้ำมัน/ ปั้มน้ำมันได้ดีเป็นพิเศษ เพราะลูกเทนนิสมันเด้งดี ระเบิดรุ่นนี้ก็เป็นระเบิดเพลิงด้วย ลองเปลี่ยนจากลูกเทนนิสเป็นปิงปองดูก็ใช้ได้เหมือนกัน

ใครเอาไปทำความเสียหายรับผิดชอบเอาเอง เผยแพร่เพื่อการศึกษาเท่านั้นเฟร้ย

ระเบิดงี่เง่า2

อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1. ลูกเทนนิส(อีกละ)
2. ไม้ขีด 4-5 กล่อง
3. มีด
4. กรวยกรอกน้ำ

วิธีทำ
1. เจาะลูกเทนนิสเป็นรูแล้วเอากรวยใส่เข้าไป
2. เลาะหัวไม้ขีดออก แล้วรวบรวมไว้
3. เอาผงที่ได้จากหัวไม้ขีดเทเข้าไปให้เต็มลูกเทนนิส
4. ตัดข้างๆกล่องไม้ขีด (ที่เราใช้ขูดเวลาจุดไฟ) ออกมา แล้วสอด/แปะ เอาไว้ที่รู (ระวังตูม)

เวลาใช้ก็ขว้างไปตรงๆ แล้วมันก็จะตูม (โอกาส 50/50 ถ้าอัดแน่นไป หรือไม่แน่นเลย ถ้าพอดีๆระเบิดแหงๆ)
เห็นมะ งี่เง่ามากเลย ใช้ไล่หมาได้ ไล่คนดี ถือไม่ดีมือแหกอีกเหมือนกัลล์

ผู้ที่ทำต้องเป็นคนที่เบื่อโลกหรือคิดไม่ยาวเท่านั้น อย่าทำเด็ดขาดเข้าไจ๊?ไม่งั้นตายนะเออ ขอโทษที่ตั้งกระทู้อันตรายแบบนี้แต่มันฮาเลยเอามาให้ดูเฉยๆไม่ได้ให้ทำ

สิ่งที่หาไม่ได้ใน Google

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

flame thrower trick



ตอนแรกมันก็ดีอยู่อ่ะนะแต่อันหลังเกินจริง

วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

ตะลึง ภาพหลุด นักฟุตบอล ไข่โพล่ อย่างฮา

ลาทะลึ่งคิดอะไรกับสาวอาบแดดอยู่ฟะเนี่ย

--->จิตวิทยาผู้ชายในศาล<---

> A man and his wife were in a court for their divorce case.
> สามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังฟ้องหย่ากัน
> The Problem was who should get custody of the child.
> ปัญหาก็คือ ใครควรจะได้สิทธิดูแลลูก
> The wife screamed and jumped up and said: "Your Honor. I brought The child
> into the world with all the pain and labor.
> ภรรยาพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า "ศาลที่เคารพ,ดิฉันคลอดเด็กออกมาดูโลกด้วยความเจ็บปวด
> และความ
> ลำบากในการอุ้มท้อง"
> The child Should be in my custody."
> " ลูกควรจะเป็นสิทธิของดิฉันค่ะ"
> The judge turned to the husband and said: "What do you have to Say in your
> defense?"
> ศาลเพ่งไปที่สามี เปิดโอกาสให้เอ่ยวาจาปกป้องตนเองได้
> The man sat for a while contemplating...then slowly rose. "Your Honor...
> If I put a dollar in a Pepsi Vending Machine and a Pepsi Comes out...
> สามีนิ่งไปอยู่ใหญ่ แล้วก็เอ่ยนิ่งๆว่า "ศาลที่เคารพ ถ้าผมหยอดเหรียญใส่ตู้ขายน้ำเป๊ปซี่ แล้ว
> เป๊ปซี่ก็กลิ้งออกมา"
> Whose Pepsi is it... The machine's or mine?"
> "เป๊ปซี่ที่ออกมา ควรเป็นของใคร ของเครื่องขายน้ำ หรือของผมครับ?"

วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553

มันจิงๆ


เกมส์โชว์ญี่ปุ่น ตลุยซอมบี้


การควงดินสอของชาวญี่ปุ่น


ถ้ารู้แต่แรกคงไม่เอา ทำสามี !!!


เกม dice mogul

http://www.khum.net/game-play/board/2466.Dice-Mogul
คล้ายๆ monopoly สนุกมาก

ชนกันเอง ซะงั้น


กระโดดน้ำในรัสเซียควรระวัง


ห้ามใส่ เมนทอส กับเบียร์ อันตรายถึงชีวิต


แคทพอสซิเบิ้ล


กระโดด ลงไปแล้วเจอ ...


เมื่อคุณเมื่อป้าเล่นพิเรน


ความสามารถ พิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ

ยิงธนูแม่นโคตรเทพ


ยิงมากี่ดอกแล้วฟะ???

น้องชายกลัวเสียงไซเรนตำรวจ วิ่งชนรถเต็มๆเลย


extrem office play


เต็มหน้าเลยฮาโคตร


แกล้งเพื่อน"ไม่คิดว่าจะพัง"

แกล้งคนในลิฟท์


เวงเจงๆ!! นึกว่าสาวที่ไหน


อีืกหน่อยเราก็ตายจากกันแล้วนะ-ข้อคิดดีๆจากน้าเน๊ก

อีืกหน่อยเราก็ตายจากกัน......แล้วนะ - ข้อคิดดี ๆ จากน้าเน๊ก เกตุเสพย์สวัสดิ์

1. คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า......... แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง
คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...
เปล่า เลยผมไม่ได้กลัวตาย และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข
*ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
*เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
*หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน
น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้นคือ ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!
อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!!
คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้าง ๆ
เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้
นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่
เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน
และผ่านคืนวันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ......
คำนวณเองบ้างซิว้อยย.....
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา ( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะทำยังไงกับมันดี ....
แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อนั่งเอา หัวตากแอร์ไปวัน ๆ ยอม ให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า ' เงินเดือน '
บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน
เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี

บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความ
รู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....ไอ้บ้า

และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด
ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี
อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ ลองคิดแบบนี้บ้าง
ใช่แล้ว ..... เราจะเกิดความเสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย

แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว
ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก

ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง

รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ... เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว
ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล

....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก
ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ
อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก

รีบ แยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน ..... เสียดายแย่
โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา